เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 22 ก.ค. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พร้อมด้วยพ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.ทวิช เพ็ญอัมพร สว.กก.สส.บก.น.8 และ ร.ต.อ.สามารถ วงศ์สายจันทร์ รอง สว.กก.สส.บก.น.8 ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุมนายเจริญ หรือลุงเริญ จันทร์ศรีทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี เลขที่ 317/2560 ลงวันที่ 21 ก.ค.2560 ในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมของกลางคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 1 ตัว ไขควง 1 อัน และกระเป๋าสะพายใส่เครื่องมือช่าง 1 ใบ โดยสามารถควบคุมตัวได้ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ บริเวณซอยจอมทอง 5 ถนนจอมทอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม.

พ.ต.อ.ประสงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะ ว่า ถูกคนร้ายลักทรัพย์รถจักรยานเสือภูเขาบริเวณจุดจอดใกล้สถาบันการศึกษา มูลค่าความเสียหายประมาณ 20,000 บาท จากการเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบผู้ต้องหาเพศชาย อายุประมาณ 55-60 ปี สวมชุดคล้ายนักปั่นจักรยานเดินมาที่รถจักรยานของกลาง ก่อนล้วงคีมออกจากกระเป๋าสะพายแล้วตัดโซ่ที่คล้องออก พร้อมทั้งปั่นรถจักรยานหลบหนีไป ทั้งนี้ระหว่างทางได้แวะไปตามสถานที่ต่างๆ แบบเรื่อยๆ คาดว่าเป็นวิธีการลวงต่อการตรวจสอบภาพจากกล้องวงวรปิด

พ.ต.อ.ประสงค์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ไล่ไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณร้านคาร์แคร์ของปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนราษฎร์บูรณะ ห่างจากสน.ราษฎร์บูรณะ และกก.สส.บก.น.8 เพียง 100 เมตร พบผู้ต้องหาขณะปั่นรถจักรยานของกลางเข้ามาใช้บริการล้างรถ ในราคาคันละ 30 บาท จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับตามภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งประสานฝ่ายสืบสวนจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ด้านนายเจริญ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยเมื่อปีพ.ศ.2541 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ โดนศาลจังหวัดสกลนครตัดสินโทษจำคุกนาน 5 ปี เมื่อพ้นโทษจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบุคคลเร่ร่อนกินอยู่หลับนอนตามท้องสนามหลวง

นอกจากนี้ เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ตนออกตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานตามจุดจอดที่ทางกทม.จัดเตรียมไว้ให้ ประกอบด้วยสถานีรถไฟฟ้าสยาม บริเวณจามจุรีสแควร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทุกครั้งที่ลงมือจะแต่งตัวให้กลมกลืนกับนักปั่นจักรยาน ก่อนใช้คีมตัดโซ่และปั่นหลบหนีไปเรื่อยๆ จากนั้นจะนำไปขายต่อให้พ่อค้าย่านศาลเจ้าพ่อเสือ หากเป็นรถจักรยานแม่บ้านจะได้ราคาคันละ 900 บาท แต่ถ้าเป็นรถเสือหมอบ เสือภูเขา หรือรถดีราคาแพง จะได้คันละ 3,000 บาท เมื่อได้เงินมาจะนำไปจ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเช่าห้อง และรักษาตัวจากอาการป่วยโรคไตเรื้อรัง

“สำหรับนายเจริญเป็นบุคคลเร่ร่อนที่รู้จักกันในนาม “ลุงเริญ สายปั่น” โดยยอมรับว่าเคยก่อนเหตุในลักษณะดังกล่าวมาประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งยอมรับเฉพาะคดีที่ตำรวจหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมามัดตัวได้เท่านั้น โดยหลังจากนี้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ก่อนประสานฝ่ายสืบสวนสน.ปทุมวัน มาอายัดตัวตามหลักฐานที่มี รวม 3 คดี หากผู้เสียหายรายใดคาดว่าถูกบุคคลดังกล่าวลักทรัพย์สามารถทางมาดูตัวได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม” พ.ต.ท.ทวิช กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน