เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. และพล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมยาไอซ์ 400 กิโลกรัม จำนวน 2 ดคี โดยคดีที่ 1 สืบเนื่องเมื่อวันที่ 28-31 ก.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 1 คดี ผู้ต้องหา 11 คน พร้อมยาไอซ์ 400 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 400 กิโลกรัม

โดยมีผู้ต้องหาทราบชื่อ คือ 1.นายโกศล ศรีมงคล อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 4 ม.11 ต.ท่าเหิง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ 2.น.ส.ชนิดาภา รัตนติสร้อย อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 91 ม.3 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย 3.นายศักดิ์ชัย ปลื้มโชค อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 171 หมู่ที่ 14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 4.นายอนุสรณ์ ศิริญากรณ์ศิริกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 96/1 ม.3 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย 5.นายสมบัติ สิมมาพิมพ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 171 ม.14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

6.น.ส.รุสนี มะสาและ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 89 ถ.ศิริไชยชาญ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส 7.นายยะหยา เปาะแม อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 145 ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 8.น.ส.ชนิศา มะสาและ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 38/1 ถ.ยะกัง 2 ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส 9.นางวันทา โคตะวงษ์ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 63 ม.3 ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย 10.น.ส.อมราภรณ์ โคตะวงษ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 276 ม.3 ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย และ 11.นายพิชิต ชัยภูมิ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 11/4 ซ.พลงช้างเผือก 1 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง

โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณกาสะลองรีสอร์ท เลขที่ 200/1 ม.13 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องบริเวณเขื่อนเพชรรีสอร์ท ม.2 ถ.ไพศาลอุทิศ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บริเวณบ้านเลขที่ 79 ซ.3 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง และบริเวณบ้านเลขที่ 63 ม.3 ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมยาไอซ์ 400 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 400 กิโลกรัม รถถยนต์ 5 คัน และโทรศัพท์มือถือ 19 เครื่อง








Advertisement

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนจนพบว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยใช้เส้นทางจาก จ.หนองคาย-จ.อุดรธานี-จ.ขอนแก่น-จ.ชัยภูมิ-จ.ลพบุรี-จ.สระบุรี-อ.บางบัวทอง-จ.นนทบุรี-จ.สมุทรสาคร-จ.เพชรบุรี เพื่อส่งมอบยาเสพติดให้กับผู้ซื้อที่รอรับในพื้นที่ จ.สงขลา ภาคใต้ของประเทศไทย กลุ่มนักค้ายาเสพติดดังกล่าวจะใช้รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน สฉ6630 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน 6กด6141 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีเทา ทะเบียน กธ5151 ขอนแก่น เป็นยานพาหนะใช้ในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า ต่อมาตำรวจชุดจับกุมจึงร่วมกันวางแผนจับกุมกลุ่มนักค้ายาเสพติดดังกล่าว โดยจัดกำลังในการปฏิบัติการเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางต่าง ๆ ดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 04.00 น. ได้พบขบวนรถยนต์กลุ่มดังกล่าว โดยรถยนต์ทั้งหมดขับทิ้งระยะห่างกัน 1-2 กิโลเมตร โดยขับไปตามถ.มิตรภาพ มุ่งหน้าออกจากพื้นที่ จ.หนองคาย-จ.อุดรธานี-จ.ขอนแก่น และเมื่อไปถึงสี่แยกเจริญศรี ถ.เหล่านาดี เส้นทางตัดผ่านกลางเมือง จ.ขอนแก่น กลุ่มนักค้ายาเสพติดได้ขับรถยนต์เลี้ยวขวามุ่งหน้าไปตามเส้นทาง จ.ขอนแก่น-อ.พระยืน แล้วขับเข้าไปในบริเวณกาสะลองรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามเข้าไปบริเวณดังกล่าว เพื่อทำการตรวจค้น พบผู้ต้องหาที่ 1-5 พร้อมรถยนต์ทั้ง 3 คัน จากการตรวจค้นพบยาไอซ์วางอยู่ข้างในรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ จำนวนประมาณ 400 กิโลกรัม จึงทำการจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดี

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 6-8 ซึ่งทำหน้าที่มาลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่สามรถจับกุมได้ที่เขื่อนเพชรรีสอร์ท ม.2 ถ.ไพศาลอุทิศ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส. 2 ดำเนินคดี

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนขยายผลทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้อีก คือ นางวันทา หรือนางทา หรือยายทา โคตะวงษ์ เป็นคนสั่งการ ร่วมกับบุตรสาวคือ น.ส.อมราภรณ์ หรือต่าย โคตะวงษ์ และนายพิชิต ชัยภูมิ สามีของน.ส.อมราภรณ์ จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนางวันทา, น.ส.อมราภรณ์ และนายพิชิต (ผู้ต้องหาที่ 9-11) และ บช.ปส. ได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องและจับกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงวันที่ 1-4 ส.ค.ที่ผ่านมา 20 เป้าหมาย คือ ภาคเหนือ 1 จุด ภาคอีสาน 12 จุด ภาคกลาง 4 จุด และภาคใต้ 3 จุด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้องหาทั้งหมด 11 ราย ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับคดีที่ 2 สามารถจับกุม 1.นายคำภี หรือโจ คำพิทักษ์ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 97 ม.7 ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร 2.นายธีรศักดิ์ หรือจุ๋ง นาคาวงศ์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 271 ม.6 ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ 3.นายธนาดล หรือป๊อบ เจียมจัตุรัส อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 90 ซ.ลาดพร้าว 1 แขวงจอมพล จตุจักร กทม. พร้อมยาไอซ์ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2 กิโลกรัม รถจักรยานยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สามารถจับกุมได้บริเวณริมถนนหน้าอพาร์ทเม้นท์ฮาโมนี่ ซ.ลาดพร้าว 12 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติด จึงได้วางแผนล่อซื้อ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ขณะกำลังนำยาไอซ์ มาส่งประมาณ 2 กิโลกรัม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อตามจับนางวันทา โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้ลักลอบขนกัญชาและไม้พยุงรายใหญ่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงมีฉายาว่ายายชา แต่ทุกวันนี้ยายชาได้เปลี่ยนมาลักลอบขนยาไอซ์ เพราะมีค่าจ้างที่สูงกว่า ถ้าสามารถลักลอบขนยาเสพติดลงไปทางภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย และประเทศออสเตรเลียได้ โดยมีค่าจ้างต่อ 1 รอบ เป็นล้านบาท และยาเสพติดในปัจจุบันนี้มีความเข้มข้นของสารเสพติดถึง 95-98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆนี้ได้มีคนแอบนำยาไอซ์ผสมน้ำให้เด็กกินที่สนามบิน เด็กนั้นกินไปไม่กี่คำก็เสียชีวิต

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ยายชาได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าสามารถลักลอบขนยาเสพติดครั้งนี้ได้สำเร็จ ยายชาและผู้ร่วมกระบวนการจะแบ่งเงินจำนวนหนึ่ง ไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่จ.สกลนครอีกด้วย โดยได้มีการทำเสื้อทีมที่มีการสกรีนหน้าอกเสื้อว่าทีมแม่จัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน