เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 12 ต.ค. พ.ต.ต.ศุภกิจ พนัสนาชี สารวัตร (สอบสวน) สภ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กแรกเกิดอยู่ภายในห้องน้ำสถานีรถไฟสะพลี หมู่ 10 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยชุมพรการกุศลสงเคราะห์ (กู้ภัยสายชล)

ที่เกิดเหตุพบว่าห้องน้ำดังกล่าวอยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 20 เมตร ขณะเดียวกันเจ้าหน้ากู้ภัยได้ใช้เชือกกั้นบริเวณไม่ให้ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบภายในห้องน้ำชายหญิงซึ่งใช้ร่วมกัน พบศพทารกแรกเกิดเป็นเพศชาย น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม สภาพร่างกายสมบูรณ์ นอนคุดคู้คว่ำหน้าจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในโถส้วม ยังมีสายสะดือติดอยู่ โดยบริเวณฝาชักโครกมีหยดเลือดกระเซ็นติดอยู่ประมาณ 3-4 หยด ก่อนหน่วยกู้ภัยจะนำศพเด็กเดินทางไปที่โรงพยาบาลปะทิวเพื่อให้แพทย์ชันสูตร

ด้านนายหัตถ์ธชัย บุญจำนงค์ ลูกจ้างของสถานีรถไฟปะทิว เป็นคนพบศพ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ตนได้เข้ามาทำความสะอาดห้องน้ำดังกล่าวตามปกติ เพราะผู้โดยสารจะมาใช้บริการกันมากในช่วงเช้ามืด เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็สังเกตเห็นหยดเลือดอยู่บนพื้นห้องน้ำจำนวนหนึ่งแต่ไม่ได้สงสัยอะไร แต่เมื่อเปิดฝาส้วมออกต้องผงะ เมื่อเจอศพเด็กแรกเกิดนอนแน่นิ่งจมน้ำอยู่ภายใน ต่อมาจึงรายงานให้หัวหน้าสถานีทราบก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ขณะที่แพทย์ระบุว่า ศพทารกดังกล่าวมีอายุครรภ์ประมาณ 9 เดือน ซึ่งมีสภาพร่างกายสมบูรณ์มาก และครบกำหนดคลอดพอดี ส่วนการเสียชีวิตนั้นเนื่องจากขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าแม่เด็กรายนี้น่าจะรู้กำหนดคลอด และอาจจะมีการวางแผนมาก่อน เพราะสังเกตุจากสายสะดือที่มีร่องรอยการตัดด้วยของมีคม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมรอผลตรวจสอบดีเอ็นเอ จากคราบเลือดและพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสืบสวนติดตามหาตัวคนที่นำทารกมาทิ้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน