เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของน.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ เปิดเผยว่า พวกตนยังไม่ยอมท้อถอยในการค้นหาร่างของน.ส.จุฑาภรณ์ โดยเฉพาะตามจุดที่ต้องสงสัยทุกแห่งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา รวมทั้งชายแดนลาว พวกตนจะไปค้นหาจนทั่วเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย แต่ยังไม่พบเบาะแสใด ๆ แม้ว่าจะมีการประกาศให้รางวัล 1 ล้านบาท หากพบตัวน.ส.จุฑาภรณ์มีชีวิตอยู่ และให้รางวัล 500,000 บาท หากพบศพ
นายบุญเลิศ กล่าวว่า ล่าสุดตนได้เบาะแสใหม่ มีชาวบ้านแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้พบรถเก๋งคล้ายกับรถของน.ส.จุฑาภรณ์มาจอดบริเวณทางลงจากช่องอานม้า ห่างจากช่องอานม้าประมาณ 500 เมตร และรถเก๋งได้จอดคู่กับรถปิคอัพคันหนึ่งนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่รถเก๋งจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว และชนราวสะพานได้รับความเสียหาย ซึ่งนับว่าเป็นเบาะแสที่สำคัญ
นายบุญเลิศ กล่าวต่อว่า ตนจึงระดมลูกหลานญาติพี่น้องพากันออกไปตระเวนค้นหาในป่าที่ต้องสงสัยดังกล่าว แต่กระทั่งบัดนี้ยังไม่พบร่างของน.ส.จุฑาภรณ์ พบเพียงหลุมที่คล้ายกับหลุมฝังอะไรซักอย่าง แต่เมื่อช่วยกันขุดขึ้นมาแล้ว ไม่พบว่ามีอะไรอยู่ในหลุมแต่อย่างใด แต่ว่าตนและญาติพี่น้องยังคงพากันลุยป่าเพื่อค้นหาร่างของลูกสาวอย่างต่อเนื่อง
นายบุญเลิศ กล่าวอีกว่า โดยแบ่งญาติพี่น้องจำนวนหนึ่ง นำเอาเรือไปตรวจค้นในอ่างเก็บน้ำด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เนื่องจากสัญญาณโทรศัพท์ของน.ส.จุฑาภรณ์กับผู้กองเหน่งมาสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณนี้ด้วย แต่จากการตรวจค้นอย่างละเอียดก็ยังไม่พบ
ด้าน น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของน.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า หลังจากตั้งรางวัลตามหาน.ส.จุฑาภรณ์ไปแล้ว ปรากฏว่ามีการแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมาก แต่ไม่มีวี่แววว่า จะพบร่างของน้องสาวแต่อย่างใด ดังนั้น ตนจะปรึกษาหารือกับพ่อแม่ญาติพี่น้อง อาจจะมีการปรับรางวัลในการแจ้งเบาะแสใหม่ ซึ่งคาดว่าจะแจ้งประกาศรางวัลใหม่ในเร็ว ๆ นี้
น.ส.หมายปอง กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ผู้กองเหน่งได้รับอนุญาตจากศาลจังหวัดกันทรลักษ์ให้ประกันตัวได้นั้น พวกตนเคารพในกระบวนการยุติธรรม และน้อมรับคำพิจารณาวินิจฉัยการตัดสินของศาลด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
