วันที่ 14 พ.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบราม บุกเข้าตรวจสอบภายในห้องเลขที่เอส 5 โรงแรมปิยะแมนชั่น ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ซึ่งถูกบังขับมาขายบริการให้กับอดีตข้าราชการครู วัย 61 ปี ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้

จากนั้นกำลังอีกชุดบุกไปจับกุมตัว น.ส.ปาวีณา ทองเชื้อ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นอาเลี้ยงของ น.ส.เอ และเป็นคนพาน.ส.เอ มาส่งที่โรงแรมดังกล่าว จากการตรวจค้นในตัวพบยาบ้า 1 เม็ด จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่กองปราบปราม

นางปวีณา กล่าวว่า ทางมูลนิธิฯ ได้รับการขอความช่วยเหลือจาก น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแม่ น.ส.เอ ว่าลูกสาวถูกน.ส.ปาวีณา ซึ่งเป็นอาเลี้ยง หลอกและบังคับข่มขู่พาไปขายบริการทางเพศ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา นานกว่า 7 เดือน น.ส.แก้ว ทนไม่ไหวจึงเข้ามาร้องเรียนที่มูลนิธิฯ ทางมูลนิธิฯจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

ขณะที่ น.ส.แก้ว ให้ข้อมูลว่า ได้แยกทางกับสามีเมื่อตอนลูกสาวอายุประมาณ 5 ขวบ ต่อมาตนมีสามีใหม่ และพาลูกสาวมาอยู่ด้วยที่บ้านสามีใหม่ โดยตนมีลูกกับสามีใหม่อีก 1 คน ช่วงประมาณต้นปี 2560 สามีใหม่ถูกจับกุมคดียาเสพติด จึงนำลูกสาวไปฝากไว้ให้อยู่กับย่าเลี้ยง ซึ่งเป็นแม่ของสามีใหม่ที่ห้องเช่าย่าน อ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากตนต้องเข้าทำงานเป็นกะ หากปล่อยให้ลูกสาวอยู่บ้านเพียงลำพังเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยตนจะแวะไปเยี่ยมลูกทุกอาทิตย์ ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 13 พ.ย. ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกตนว่าถูก น.ส.ปาวีณา บังคับข่มขู่พาไปขายบริการทางเพศมานานกว่า 7 เดือนแล้ว แถมยังบังคับให้รับแขกมากกว่า 3 คนต่อวัน หากไม่ทำจะถูกด่าทอ ทำร้ายทุบตี เงินที่ได้มาน.ส.ปาวีณา จะเก็บไว้ทั้งหมด หากมีแขกติดต่อมาซื้อบริการในช่วงวันธรรมดา ยังต้องหยุดเรียนเพื่อไปขายบริการอีกด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน