เผยพิรุธสินบนนำจับรถหรู ‘ผกก.โจ้’ 410 คัน บางคันถูกยึดก่อนเข้าประเทศ ชี้อีก 140 คันยังเป็นปริศนา ตามหานอมินี ‘บิ๊กใหม่’ ระบุคดีคืบหน้า 90% ลั่นเอาผิดได้แน่
วันที่ 4 ต.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง จตช., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. แถลงความคืบหน้าคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกรวม 7 คน ที่รุมซ้อมทรมานผู้ต้องคดียาเสพติดจนเสียชีวิต
พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า คดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีด้วยกันทั้งหมด 4 คดี ถึงตอนนี้เรามีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้แน่นอน โดยเฉพาะคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนถึงแก่ชีวิต ที่คืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่น่าเกินเดือน พ.ย.นี้ก็น่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาได้
ส่วนเรื่องคดีสินบนนำจับรถหรู ตรวจสอบพบว่า ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องกับจับกุมรถหลบเลี่ยงเสียภาษี จำนวน 410 คัน พบข้อมูลเป็นรถแจ้งหายไว้ที่ต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และ สิงค์โปร์ รวม 270 คัน แบ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายก่อนตรวจยึด 101 คัน และรถที่แจ้งหายหลังถูกตรวจยึด 169 คัน ที่เหลืออีก 140 คัน ยังไม่พบแหล่งที่มา และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า คดีรถหรูทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายแน่นอน เพราะวิธีการจับกุมที่ไม่ชอบ โดยมีการยึดก่อนที่รถจะผ่านเข้าประเทศด้วยซ้ำ และยังพบพิรุธอีกหลายประเด็น รถเหล่านี้ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติเป็นคนนำเข้ามา ก่อนจะเดินทางกลับด้วยสายการบิน ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ทาง สตม. เร่งตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดว่า บุคคลดังกล่าวนำรถเข้ามาในประเทศแล้วกี่คัน เป็นรถคันใดบ้าง เพื่อให้หลักฐานมีความแน่นหนา จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิด ผกก.โจ้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แน่นอน เพียงแต่ขอเวลารวบรวมข้อมูลจากกรมศุลกากรและสถาบันการเงินก่อน
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรถทั้ง 410 คัน จากทางศุลกากรค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเข้ามาของรถ ใครเป็นคนนำเข้ามา ใครเป็นนอมินี และใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ทางตำรวจมีข้อมูลหมด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรอบของเวลาในการสรุปเรื่องนี้ ยังคงไม่สามารถกำหนดให้แน่ชัดได้ เนื่องจากรายละเอียดค่อนข้างมาก
