วันที่ 13 ธ.ค. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฎิบัติการ 1 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติปีนสลิงบนหลังคาของอาคารผู้โดยสาร ตนและนางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฎิบัติการ 2 และทีมผู้บริหารได้รีบสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้เร่งจัดเตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุพร้อมกับเดินทางเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นพบว่าเป็นหญิงสาวชาวต่างชาติ คาดว่าจะเป็นชาวยุโรป แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสัญชาติอะไร ได้ปีนขึ้นไปเกาะตามสลิงต่างๆ ของโครงสร้างตัวอาคารบริเวณชั้น 6 ด้วยความสูงจากพื้นประมาณ 20 เมตร จึงสั่งการให้ใช้แผนรองรับมาตราการรักษาความปลอดภัยพร้อมยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพโดยด่วน โดยจัดทีมแพทย์ ทีมดับเพลิง และชุดกู้ภัยตัวอาคารพร้อมกับเบาะลมจำนวน 2 ชุด เข้าเผชิญเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทีมเจรจาของการท่าใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการพูดคุยแต่ไม่เป็นผลเคราะห์ดีที่ผู้ก่อเหตุได้ปีนจากชั้น 6 ลงมายังชั้น 4 ทำให้ลดระดับความสูงจากพื้นได้มากแต่จากการประเมินของเจ้าหน้าที่แล้วพบว่าไม่สามารถเข้าประชิดตัวหรือเข้าชาร์จได้เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่ จึงอาศัยจังหวะที่เริ่มหมดแรงจนกระทั่งพลัดตกลงมาใส่เบาะลมด้านล่างอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ในส่วนของผู้ก่อเหตุจากการตรวจสอบประวัติพบว่าช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมามีผู้พบเห็นเดินอยู่บนทางด่วนย่านพระราม 4 เจ้าหน้าที่การทางพิเศษจึงนำตัวมาส่งยังตำรวจท่องเที่ยวภายในสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากที่เจ้าหน้าที่พบเห็นก็เชิญตัวมายังห้องรับรองพร้อมทั้งพูดคุยสอบถามเบื้องต้นแต่ไม่สามารถสื่อสารกันได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุไม่ยอมพูดจาอะไร จากการสังเกตพบว่ามีรอยสักที่แผ่นหลังคำว่า โอลิมปิค 2014 เจ้าหน้าที่จึงหาน้ำและอาหารให้รับประทานเพื่อผ่อนคลาย จนกระทั่งมาช่วงสายของวันนี้มีพบเห็นว่าปีนขึ้นไปบนหลังคาแล้ว โดยหลังจากนี้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะสามารถสื่อสารกันได้จะได้ประสานสถานทูตของประเทศนั้นเข้ามาดูแลต่อไป
