โรงเรียนกทม. 437 แห่ง เปิดเรียนออนไซต์วันแรก หากพบเสี่ยงสูงฉีดวัคซีนครบไม่ต้องกักตัว งดตรวจ ATK เด็กอนุบาล-ป.6 ยังไม่ได้ฉีดอีกกว่า 1 แสนคน

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.65 ที่โรงเรียนราชบพิธ เขตพระนคร นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงเรียนในการเปิดเรียนแบบออนไซต์ วันแรก ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการศึกษา สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตพระนคร และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจเยี่ยม

นายขจิต กล่าวว่า กทม. เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนโรงเรียนสังกัดกทม. 437 โรงเรียน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกำหนดมาตรการป้องกันระหว่างเปิดเรียนของโรงเรียนสังกัด กทม. ในช่วงที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ ให้ทุกโรงเรียนจัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ เพื่อทำความสะอาด อาคารเรียน อาคารบริการ โรงอาหาร ห้องน้ำ อย่างสม่ำเสมอ ให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ เจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

จัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม สนามเด็กเล่น ลานเอนกประสงค์ และบริเวณโดยรอบโรงเรียน ให้สะอาด ปลอดภัย และอยู่ในสภาพพร้อมใช้อยู่เสมอ จัดให้มีจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้าภายในโรงเรียน และจัดให้มีสถานที่แยกกักตัวในโรงเรียน

สำหรับการรองรับการดูแลรักษาเบื้องต้นกรณีที่พบนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากทม. และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน มีอาการเข้าข่ายสงสัยเป็นผู้ติดเชื้อ โรงเรียนประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+) ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนควบคุมดูแลการเดินทาง ไป-กลับ ของนักเรียนให้มีความปลอดภัย เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม

ตรวจ ATK เมื่อมีความเสี่ยงหรือเมื่อมีอาการ ให้เว้นระยะห่างระหว่างนักเรียนในห้องเรียนไม่น้อยกว่า 1 เมตร เว้นระยะห่างระหว่างทางเดิน หรือในขณะทำกิจกรรมในโรงเรียน การย้ายห้องเรียน การเหลื่อมเวลาเรียนหรือเวลาพักรับประทานอาหาร

“สำหรับแนวปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของสถานศึกษา กรณีนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้เปิดเรียนตามปกติ โดยปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST)

ส่วนกรณีนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หากเป็นผู้ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ตามแนวทางปัจจุบัน ทั้งผู้มีอาการและไม่มีอาการ แนะนำให้กักกันตัวเป็นเวลา 5 วัน และเฝ้าระวังอาการอีก 5 วัน และหากเป็นผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดส ถ้าไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน

ควรพิจารณาให้ไปเรียนได้ หากมีอาการ ตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วย ATK โดยให้ตรวจทันที หากไม่มีอาการให้ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 5 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ และตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ โดยกำหนดให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม ใน 5 วันแรก

ควรเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร ในกรณีนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน ให้ปิดห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาด ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข แล้วให้เปิดใช้ห้องเรียนได้ ห้องเรียนอื่นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเปิดเรียนออนไซต์ตามปกติ งดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกัน โดยเฉพาะระหว่างห้องเรียน” ปลัดกทม. กล่าว

ปลัดกทม. กล่าวอีกว่า ในส่วนของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร มีจำนวน 14,493 คน ได้รับวัคซีนแล้ว 14,291 คน คิดเป็นร้อยละ 98.61 ยังไม่ได้รับวัคซีน 202 คน คิดเป็นร้อยละ 1.39 นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครระดับชั้นอนุบาล 1 – ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 222,213 คน ได้รับวัคซีนแล้ว 108,144 คน คิดเป็นร้อยละ 48.67 ยังไม่ได้รับวัคซีน จำนวน 114,069 คน คิดเป็นร้อยละ 51.33

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 38,947 คน ได้รับวัคซีนแล้ว 33,180 คน คิดเป็นร้อยละ 85.19 ยังไม่ได้รับวัคซีน จำนวน 5,767 คน คิดเป็นร้อยละ 14.81 (ข้อมูล วันที่ 6 พ.ค.65)

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน