สธ. เพิ่มฟังก์ชั่นบน “หมอพร้อม Chatbot” ให้ผู้ติดโควิด 19 ประเมินตนเองหรือครอบครัว คัดกรองภาวะวิกฤตและความเร่งด่วนในการเข้ารับการรักษา

วันที่ 22 ก.พ.2565 นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น สธ.จึงพัฒนาฟังก์ชันการประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 (Self-assessment) บนระบบ “หมอพร้อม Chatbot”

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยคัดกรองผู้ที่มีผลการตรวจโควิด 19 เป็นบวก ให้ได้รับคำแนะนำในการเข้ารับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นได้ โดยการประเมินจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.คัดกรองภาวะวิกฤต และ 2.คัดกรองความเร่งด่วน โดยสามารถประเมินให้ตนเองหรือบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อได้ โดยเครื่องมือการประเมินมีค่าความแม่นยำร้อยละ 85

สธ. เพิ่มฟังก์ชันบน "หมอพร้อม Chatbot" ให้ผู้ติดโควิด 19 ประเมินตนเองหรือครอบครัว

สธ. เพิ่มฟังก์ชั่นบน “หมอพร้อม Chatbot” ให้ผู้ติดโควิด 19 ประเมินตนเองหรือครอบครัว

“เมื่อผู้ติดเชื้อทำแบบประเมินแล้วระบบจะวิเคราะห์จากข้อมูลสุขภาพพื้นฐานของผู้ติดเชื้อ อาการและความพร้อมในการรักษาตัวที่บ้าน โดยผลจากการประเมินเป็นการให้คำแนะนำในเบื้องต้น ไม่ใช่การวินิจฉัยทางการแพทย์ หากประชาชนที่ติดเชื้อโควิด 19 มีอาการรุนแรงขอให้เข้ารับการรักษาโดยเร่งด่วน และหากมีอาการนอกเหนือจากที่แบบประเมินกำหนด หรือมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาสถานพยาบาลใกล้บ้าน สำหรับช่องทางการประเมินความเสี่ยงบนหมอพร้อม Chatbot ใช้งานได้แล้ววันนี้ ทั้ง LINE Official Account, แอพพลิเคชั่น และช่องทางแชทบน Facebook Page ของหมอพร้อม” นพ.โสภณ กล่าว

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตามระบบการรักษา หากติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มสีเขียว คือ ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย จะเน้นการดูแลรักษาที่บ้านและชุมชนเป็นลำดับแรก (HI/CI First) ซึ่งจะได้รับการติดตามอาการทุกวันจากบุคลากรทางการแพทย์ หากมีอาการเปลี่ยนแปลงจะได้รับการส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามระบบ

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ แบบประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองสำหรับผู้ติดเชื้อผ่านหมอพร้อม Chatbot จะเป็นอีกช่องทางและเครื่องมือในการช่วยประเมินอาการตนเองเพื่อรับคำแนะนำการเข้ารับการดูแลรักษาเบื้องต้น โดยหมอพร้อม Chatbot จะมีเมนู “ติดโควิด คลิกที่นี่” จากนั้นระบบจะถามคำถามเพื่อประเมินและคัดกรองภาวะวิกฤต ได้แก่

  • 1.มีปัญหาการหายใจ เช่น หายใจไม่ทัน หายใจเหนื่อยจนซี่โครงบาน หายใจเร็วกว่า 20 ครั้งต่อนาที หายใจมีเสียงดัง
  • 2.อาการซึมลง ไม่รู้สึกตัว
  • 3.อาการตัวซีด เย็น
  • 4.อาการเหงื่อท่วมตัว หากมีอาการจะแนะนำว่าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินให้ติดต่อ 1669 เพื่อเรียกรถพยาบาลหรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า หากไม่มีอาการดังกล่าวจะแนะนำให้ทำแบบประเมินคัดกรองความเสี่ยงต่ออาการรุนแรง ซึ่งจะมีการสอบถามช่วงอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว สอบถามอาการ เช่น ไอ เจ็บคอ ไข้มากกว่า 39 องศาเซลเซียส ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ หายใจลำบาก/ไม่อิ่ม จมูกไม่ได้กลิ่น ท้องเสีย และคลื่นไส้อาเจียน

รวมถึงสอบถามว่าเป็นกลุ่มเปราะบางหรือไม่ เช่น ตั้งครรภ์ มีภาวะติดเตียง ประวัติโรคจิตเวช ซึ่งต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด มีความพิการและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จากนั้นระบบจะนำคำตอบทั้งหมดมาประเมินและให้คำแนะนำเบื้องต้น เช่น หากแนะนำการดูแลที่บ้าน จะระบุช่องทางติดต่อ 1330 รวมถึงให้คู่มือแนวทางการกักตัวที่บ้าน เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน