นศ.สาวเหยื่อ ‘เด่นภูมิ’ แจ้งความอีกราย สุดช้ำจำใจรับงานเอนฯ ถูกหลอกไปย่ำยีทั้งวันทั้งคืน บังคับเสพยา สุดทรมาน ตร.ประสานแท็กซี่ล่า

วันที่ 10 พ.ค.64 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี เรียนอยู่ชั้น ปวช. 3 สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกรายที่ถูก นายเด่นภูมิ หรือเด่น วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี โมเดลลิ่งเก๊ล่อลวงมาทำร้ายร่างกาย มอมยา ข่มขืนและถ่ายคลิป ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.(หญิง) ณัฐฐาภาณี ดวงดี สว.(สอบสวน) ​สน.บวรมงคล เพื่อเอาผิด นายเด่นภูมิ ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำนนต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่น ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

น.ส.เอ กล่าวว่า ตนไม่เคยรับงานเอนเตอร์เทนมาก่อน แต่ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด พ่อกับแม่ลำบาก ประกอบกับต้องเตรียมหาเงินจ่ายค่าเทอม ทำให้ตัดสินใจเข้ากลุ่มไลน์พริตตี้หางาน กระทั่งวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายเด่นภูมิ ทักไลน์มาหาบอกจะจ้างงานให้มาเอ็นเตอร์เทนลูกค้านักธุรกิจชาวมาเลเซีย ที่ย่านจรัญสนิทวงศ์ ให้ค่าตอบแทนสูง เเค่ชงเหล้า 7-8 ชั่วโมง จ่าย 20,000 บาท ค่ารถต่างหาก ปกติตนรับงานถ่ายแบบครั้งละประมาณ 4,000 บาท ส่วนงานเอนฯ เพื่อนๆ รับกันอยู่ครั้งละ 6-8 พันบาท ตนจึงเรียกแกร็บคาร์จากพัทยามาถึงย่านจรัญสนิทวงศ์ เมื่อเวลาประมาณ 06.00น.วันเดียวกัน

เมื่อมาถึงก็โทรหา นายเด่นภูมิ แต่กลับอ้างว่า ลูกค้าประชุมงานด่วนจะเสร็จธุระประมาณบ่ายโมง ให้ตนไปรอที่โรงแรมโรสทาวน์ โฮเต็ล ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 เปิดห้องพักแบบค้างคืนเอาไว้ก่อน และจะเพิ่มเงินค่าเปิดห้องพักให้ในภายหลัง ตนจึงเข้าไปเปิดห้อง จ่ายเงินค่าห้องไป 500 บาท แล้วเข้าไปนั่งรอ ผ่านไป 5 นาที นายเด่นภูมิ มาเคาะประตู แล้วเดินถือมีดปลายแหลมบุกเข้ามาจี้บังคับให้ตนถอดเสื้อผ้า และข่มขู่ต่างๆ นานา บอกให้ตนทำตามคำสั่ง แถมยังพูดว่าหมั่นไส้เด็กพัทยามานานแล้ว เพราะเคยถูกเด็กพัทยาหลอกลวงเอาเงินไป

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า จากนั้น นายเด่นภูมิ ได้ยึดโทรศัพท์มือถือตนไป พร้อมเงินสดในกระเป๋าประมาณ 3,000 บาท แล้วลงมือข่มขืน โดยไม่สวมถุงยางอนามัย ครั้งแรกเจ้าตัวไม่สำเร็จความใคร่ จึงใช้มีดจี้บังคับให้ตนเสพยาไอซ์ร่วมกัน แล้วก็ถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งวันทั้งคืน จนถึงช่วงเย็นวันที่ 8 เม.ย. นายเด่นภูมิ ได้พยายามให้ตนวีดีโอคอล ไปหาพริตตี้อีกคน เพื่อหลอกให้มาที่โรงแรม แต่ตนยังไม่รู้จักใคร ประกอบกับเพิ่งรับงานครั้งแรก เมื่อคุยกับพริตตี้คนอื่นๆ จึงออกอาการมีพิรุธมาก ไม่มีใครกล้ารับงาน ทำให้ นายเด่นภูมิ โกรธมากทั้งทุบตีตนจนได้รับบาดเจ็บ แถมยังใช้มีดแหย่เข้าไปในช่องคลอดตนจนเลือดออก และขู่จะฆ่าตนให้ตายหากไม่สามารถหลอกเหยื่อรายอื่นๆ มาได้

จนกระทั่งช่วงดึกของวันที่เดียวกัน นายเด่นภูมิ ได้ใช้ไลน์ปลอมโพสต์หาเด็กเอนฯ ที่พร้อมรับงานในกลุ่มพริตตี้ด้วยตัวเอง จน น.ส.ฝน เหยื่อรายที่ 2 ที่แจ้งความไปก่อนหน้านี้ หลงเชื่อเพราะ นายเด่นภูมิ ใช้มีดจ่อคอตนให้ยืนยันว่ามีพริตตี้รายอื่นๆ อยู่ในห้องด้วย ไม่ต้องกลัวอันตราย ทำให้ น.ส.ฝน ตัดสินใจรับงานและนั่งรถแท็กซี่มาถึงที่โรงแรม ช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 9 เม.ย. เมื่อเดินทางมาถึง ก็โดนกระทำไม่ต่างจากตน โดยตลอดทั้งคืนที่ น.ส.ฝน ถูกกระทำนั้น นายเด่นภูมิ บังคับให้ตนห่มผ้าคลุมโปงเอาไว้ สลับกับเอาตนไปขังในห้องน้ำ และห้ามเอาเรื่องไปเล่าให้ใครฟัง มิเช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย เพราะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่ใหญ่กว่าตำรวจหลายคน และกรุงเทพฯ แคบนิดเดียว

ตอนนี้ตนเข็ดและกลัว ไม่กล้ารับงานประเภทนี้อีกแล้ว ช่วงสาย นายเด่นภูมิ ได้วางแผนให้ น.ส.ฝน หลอกพริตตี้รายอื่นมาให้อีก ซึ่งท้ายที่สุดก็มีเหยื่อหลงเชื่อ โดยเหยื่อรายที่ 3 นี้ ตนไม่ทราบชื่อ เดินทางจากย่านปากเกร็ด ข.นนทบุรี มาถึงที่โรงแรมประมาณ 11.00 น. พอมาถึงห้องก็ถูกย่ำยีเช่นกัน ระหว่างนั้น ทั้งตน และ น.ส.ฝนถูก นายเด่นภูมิ จับขังไว้ในห้องน้ำ กระทั่งพวกตนทั้งคู่ออกอุบายขอโทรศัพท์มือถือคืนจาก นายเด่นภูมิ ได้ แล้วรีบใส่เสื้อผ้าวิ่งออกจากโรงแรมเพื่อหนีตาย เรียกรถแท็กซี่แยกย้ายกันหลบหนีกลับที่พัก จนเพิ่งสามารถติดต่อ น.ส.ฝน ได้เมื่อวันก่อน และทราบว่า น.ส.ฝน แจ้งความเอาไว้แล้ว แต่เหยื่อรายที่ 3 ตนยังไม่สามารถติดต่อได้ นอกจากนี้ยังมี น.ส.ปาล์ม (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นศ.ปี 3 มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังย่านบางนา ผู้เสียหายอีกคนที่จะเข้าแจ้งความที่ สน.บวรมงคล เพื่อเอาผิด นายเด่นภูมิ ที่ล่อลวงไปขืนใจในลักษณะเดียวกัน

ล่าสุดแม่ของ น.ส.ฝน ได้ตั้งกลุ่มไลน์ผู้เสียหายที่ถูก นายเด่นภูมิ ก่อเหตุ มีทั้งหมด 36 คน แบ่งการกระทำเป็น 3 ประเภทคือ ถูกปลอมไลน์ บังคับเสพยาเสพติด และข่มขืนชิงทรัพย์ ซึ่งกรณีข่มขืนชิงทรัพย์มีผู้เสียหาย 10 คน

ด้าน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 เปิดเผยว่า คดีได้มีการสนธิกำลังตำรวจสืบสวนตำรวจนครบาล 9 ตำรวจนครบาล 7 สน.บางขุนเทียน และ สน.บวรมงคล ร่วมกันติดตามตัว นายเด่นภูมิ ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะมีพฤติกรรมเป็นบุคคลอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสืบสวนติดตามตัว นายเด่นภูมิ มีการประสานงานกันหลายหน่วย ประกอบด้วย กองปราบปราม, บก.สส.บช.น., กก.ดส.บช.น., กก.สส.บก.น.9, กก.สส.บก.น.7, ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน และ สน.บวรมงคล พบว่าขณะนี้ นายเด่นภูมิ ได้เงินสนับสนุนจากพ่อบุญธรรม วันละ 500-​1,500 บาท โดยมีการโอนเข้าบัญชี ทั้งนี้ นายเด่นภูมิ ใช้วิธีการหลบหนีโดยรถแท็กซี่ทุกครั้ง และจะเบี้ยวไม่จ่ายค่าโดยสาร ล่าสุด เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา นายเด่นภูมิ ไปหาเพื่อนที่เคยติดคุกด้วยกันตอนปี 2552 ใกล้กับวัดช้าง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนไปขอพักบ้านเพื่อน แต่เพื่อนไม่ยอมให้ค้าง เพราะกลัวมีความผิด เมื่อฝ่ายสืบสวนตามไปก็คลาดกันเพียงนิดเดียว

จนกระทั่งล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเด่นภูมิ ได้เข้าไปขอเงินพ่อบุญธรรมภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 68 ก่อนรีบนั่งรถแท็กซี่ออกไป ซึ่งตลอดการหลบหนี นายเด่นภูมิ จะปิดโทรศัพท์มือถือ เวลาจะติดต่อใครจะใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนที่ตัวเองไปหา นอกจากนี้ นายเด่นภูมิ ยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิมปลอมเฟซบุ๊ก ปลอมไลน์ เลือกเหยื่อพริตตี้ที่มีรถยนต์ เพื่อจะได้มีพาหนะสะดวกในการหลบหนี ขณะนี้ ชุดสืบสวนกำลังไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่า นายเด่นภูมิใช้หลบหนี

ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองปราบปรามได้นำภาพพร้อมประวัติการก่อเหตุของ นายเด่นภูมิ ซึ่งถือเป็นบุคคลอันตรายประชาสัมพันธ์ไปยังคนขับแท็กซี่เพื่อให้ช่วยกันเฝ้าระวังและเป็นหูเป็นตา เนื่องจาก นายเด่นภูมิ อยู่ระหว่างการหลบหนีและมักจะใช้รถแท็กซี่เป็นพาหนะ ซึ่งหากแท็กซี่คนใดพบเห็น นายเด่นภูมิ ขอให้แจ้งกลับมาที่ตำรวจโดยเร็วที่สุดพร้อมกับมีเงินรางวัลนำจับให้ 5,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน