หนุ่มควงปืนยิง ผู้มีพระคุณ จากด้านหลัง 3 นัด กระสุนติดคาหลัง เผยปมแค้นเมื่อ 6 เดือนก่อน เห็นภาพบาดตาบาดใจในห้องเก็บของ ก่อนขับกระบะซิ่งหนีชนเสาไฟฟ้า
วันที่ 27 ก.พ.2567 พ.ต.ต.พายัพ รุ่งหัวไผ่ สารวัตร(สอบสวน) สภ.โคกสำโรง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.10 น.ของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลตำบลโคกสำโรง จ.ลพบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บชื่อ นายธนัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง กางเกงยีนส์ ที่ด้านหลังมีเลือดไหลเปื้อนเสื้อ พบถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 3 นัด มีหัวกระสุนปืนคาอยู่ที่แผ่นหลัง ก่อนที่นายธนัสจะเดินขึ้นรถกู้ภัยฯ ไปโรงพยาบาลโคกสำโรง เหมือนว่าตนเองไม่ได้ถูกยิง และบาดเจ็บ
หนุ่มควงปืนยิง ผู้มีพระคุณ จากด้านหลัง 3 นัด กระสุนติดคาหลัง เผยปมแค้นเมื่อ 6 เดือนก่อน เห็นภาพบาดตาบาดใจในห้องเก็บของ
จากการตรวจสอบพบว่า มือปืนได้จอดรถรอนายธนัสที่ฝั่งตรงข้ามร้าน เมื่อนายธนัสขับรถจักรยานยนต์มาจอดคนร้ายได้เดินปรี่ประกบหลังรัวยิง 3 นัด ก่อนขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ตฬ-5012 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรง แจ้งสกัดจับ แต่ยังไร้วี่แวว กระทั่งเวลา 22.20 น. ร.ต.อ.วีระพันธ์ ชื่นชม รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุที่ถนนพลโยธิน 1 ฝั่งเข้าเมือง ต.นิคมสร้างตนเอง
ที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย เสาไฟฟ้าส่องสว่างหักโค่น อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช
เมื่อพนักงานสอบสวนเดินทางมาถึง พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถยนต์คันที่ก่อเหตุยิงแล้วหลบหนี ที่โคกสำโรงเมื่อช่วงค่ำ จึงได้วิทยุแจ้งตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองลพบุรี รุดอายัดตัวไว้ก่อน ตำรวจสายตรวจยังเดินทางไปไม่ถึงโรงพยาบาล กู้ภัยฯที่นำตัวส่งได้วิทยุบอกตำรวจว่าคนเจ็บหลบหนีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
จึงได้กระจายกำลังออกติดตามด้วยความระมัดระวังเนื่องจากผู้ที่หลบหนีมีอาวุธปืน ผ่านไปประมาณ 20 นาทีพบนายบุญชู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนควบคุมตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุมา
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้ค้นรถยนต์พบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกตกอยู่ที่พื้นรถ กระสุนปืน 23 นัด และปลอกกระสุนปืนอีก 3 ปลอก จึงรวบรวมไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐาน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุมีกู้ภัยฯจาก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ แจ้งว่ารถคันดังกล่าวเฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหายเขตสระบุรี ก่อนหลบหนีมาประสบเหตุ ชนเกาะกลางเสาไฟฟ้าจนพังราบ ซึ่งกู้ภัยฯ เล่าว่ารถยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นายอาณัติ ถึงเพ็ชร อายุ 33 ปี กู้ภัยฯ ที่นำคนเจ็บมาส่ง กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าผู้บาดเจ็บสลบอยู่ในรถเป็นเวลานาน ลักษณะคล้ายคนเมา และมีอาการบาดเจ็บไม่คิดว่าจะหลบหนีออกจากโรงพยาบาลได้ และไม่ทราบว่าเป็นมือปืนที่หลบหนีมา
จากการสอบถามเบื้องต้น นายบุญชู ผู้ก่อเหตุ เล่าพอจับใจความได้ว่า ตนขายอาหารตามสั่งอยู่ที่ตลาด อ.บ้านหมี่ โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจากนายธนัสผู้ที่ถูกยิงที่เปรียบเสมือนลูกพี่ที่มีพระคุณ ให้เช่าพื้นที่ขายของในราคาย่อมเยา
นายบุญชู กล่าวต่อว่า ก่อนที่ตนจะลงมือก่อเหตุยิงลูกพี่ผู้มีพระคุณ เมื่อ 6 เดือนก่อนเห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างภรรยาของตนกับนายธนัสในห้องเก็บของสองต่อสอง ต่อหน้าต่อตา ตนพยายามข่มใจและเก็บสะสมความแค้นนี้มานาน ก่อนไปหาซื้อปืนมาได้ จนมาถึงวันนี้ได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี และ สภ.โคกสำโรง ได้อายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรอง พกพาอาวูธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย และเมาขณะขับรถ
