“ปั๊บ อุดร” มือ ฆ่าเจ้าอาวาส ยังไม่ได้สติ ไม่พร้อมให้การ ตำรวจค้านประกัน เร่งสืบสวนพยานหาสาเหตุเอาผิดอย่างเต็มที่ ครอบครัวติดใจการก่อเหตุ

กรณีนายสิทธิชัย อายุ 28 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี คลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้เสียมด้ามเหล็กไล่ทำร้ายคนในหอพักแห่งหนึ่ง ข้างซอยหลังวัดอดุลแก้วมอดี บ.โนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนจะบุกเข้ามาทำร้ายพระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดจนมรณภาพ โดยมีคนมาพบศพบริเวณลานปูนหน้ากุฎิวัด ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 มี.ค.67 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ประชุมร่วมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี และการสอบสวนปากคำพยานเพิ่มเติม รวมทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิต

พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังคงอยู่ที่ รพ.ศรีนครินทร์ ซึ่งทีมกู้ชีพฉีดยาระงับอาการคลุ้มคลั่งไว้หลังถูกจับกุมตัว และทีมแพทย์รักษาตัวให้กับผู้ต้องหา เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดหลายจุด โดยขณะนี้ยังคงไม่สามารถสอบปากคำใดๆได้ จึงต้องรอให้ผู้ต้องหาอาการดีขึ้น จึงจะขออนุญาตแพทย์ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าว

“จากการตรวจสอบไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหา ทั้งเมตเฟตามีนและเคตามีน ขณะที่จากการตรวจสอบห้องพักของผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ห่างจากวัดที่เกิดเหตุไม่ถึง 50 เมตรพบว่า ในห้องมีต้นกัญชา 3 ต้น มีเขียงและอุปกรณ์การเสพอยู่ในห้อง จึงตรวจยึดมาตรวจสอบ

ซึ่งในเบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งหากการสอบปากคำพยานและการให้การต่างๆของผู้ต้องหาออกมาในลักษณะใดก็จะตั้งข้อหาต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อไป” พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าว

นายชัชชัย อายุ 42 ปี หลานของพระครูปลัดต่วน กล่าวว่า หลวงลุงอยู่ที่วัดแห่งนี้และสร้างวัดแห่งนี้มากว่า 40 ปี มีญาติธรรมและลูกศิษย์ลูกหาจำนวน ซึ่งการที่คนร้ายมาก่อเหตุดังกล่าวยอมรับว่าครอบครัวเสียใจมาก และต้องการให้ตำรวจเอาผิดให้ถึงที่สุดและลงลึกในรายละเอียดให้มากและรัดกุม เพราะครอบครัวยังทำใจไม่ได้ และรับไม่ได้ หากจะมาบอกว่าคลุ้มคลั่งและก็เหมือนคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้น

“ครอบครัวยอมรับว่าติดใจสาเหตุของการก่อเหตุ ที่ไม่น่าจะเกิดจากการคลุ้มคลั่งและมาก่อเหตุ แต่น่าจะเตรียมการมาก่อน โดยหลวงลุงเคยบอกกับที่บ้านว่า มีคนมาตามเฝ้าดู ดึกดื่นๆ และคนที่แพ้คดีไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งคดีความนั้นเคยมีขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา จากปมพิพาทการก่อสร้างพระอุโบสถ ระหว่างพระในวัด

ซึ่งคดีนี้หลวงลุงชนะคดี จึงทำให้พระอีกฝ่ายไม่พอใจ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าจะเตรียมการเอาคนวิกลจริต หรือหาคนมาพักหลังวัด และสบจังหวะในวันที่หลวงลุงไม่ออกไปบิณทบาต โดยยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้ากุฎิ จึงบุกเข้ามาก่อเหตุทำร้าย” นายชัชชัย กล่าว

นายชัชชัย กล่าวต่อว่า มีคนเห็นชายคนนี้มาในวัดหลายครั้ง และวันนี้ก็เข้ามาและตรงมาทำร้ายร่างกายหลวงลุงอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังเข็นรถเข็นศพของวัดมา เพื่อจะอุ้มร่างหลวงลุงไปเผา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนให้รัดกุม และลงลึกในรายละเอียดเพราะมีหลายอย่างประจวบเหมาะเกินไป มากกว่าจะคลุ้มคลั่งแล้วมาฆ่า

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ครอบครัวกำลังประสานกับ รพ.ศรีนครินทร์ ที่ยังคงชันสูตรศพอยู่ โดยหากแล้วเสร็จจะขอนำร่างของท่านมาไว้ที่วัด เนื่องจากหลวงลุงอยู่ที่วัดแห่งนี้มากกว่า 40 ปีแล้ว และทางคณะสงฆ์ก็มีพิธีการต่างๆของท่าน จึงต้องรอกำหนดการชัดเจนจากคณะสงฆ์, สำนักพุทธ และกรรมการวัดที่จะกำหนดร่วมกันอีกครั้ง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน