เปิดปม หลานเขยโหด ยิงหัวเรียงคน เสียชีวิต 3 ศพ เมีย เผยสาเหตุแค้นฝังใจ ทำแฟนหนุ่มเหลืออด หวั่น สักวันครอบครัวจะไม่ปลอดภัย
วันที่ 21 มี.ค.2567 พ.ต.ท.เจษฎา พรหมสุวรรณ์ สารวัตรใหญ่ สภ.มะนาวหวาน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ม.2 ต.ห้วยขุนราม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.มะนาวหวาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลพัฒนานิคม นายธนณัฐ อาจิณกิจ นายอำเภอพัฒนานิคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นคร88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
เปิดปม หลานเขยโหด ยิงหัวเรียงคน เสียชีวิต 3 ศพ เมีย เผยสาเหตุแค้นฝังใจ ทำแฟนหนุ่มเหลืออด
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงอยู่ห่างจากถนนทางเข้าหมู่บ้านไปประมาณ 100 เมตร ที่ใต้ถุนบ้านพบร่างชาย 2 คน นอนแน่นิ่งจมกองเลือด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นจุดเกิดเหตุเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ร่วมในการชันสูตรพลิกศพ
ซึ่งทราบว่า ได้มีกู้ภัยฯนำคนเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า 1 ราย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุทราบชื่อ นายสีไพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สภาพศพนั่งอยู่กับพื้นหน้าคะมำที่ผนังข้างบ้านเลือดกระจายเต็มฝาผนัง จากการชันสูตรพลิกศพพบถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 ที่ท้ายทอย 1 นัด ข้างศพพบค้อนเปื้อนเลือด 1 อัน
ส่วนศพที่ 2 ชื่อ นายคมศร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี สภาพถูกยิงท้ายทอย 1 นัด ร่างไร้วิญญาณทับชามอาหารเป็นเครื่องในวัว มีเขียงและมีดพก 1 เล่มตกอยู่ ส่วนอีกคนตรวจสอบแล้วยังหายใจรวยรินร้องขอความช่วยเหลือ
Advertisement
เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวังม่วงสัทธรรม สระบุรี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายสมรรถชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สภาพถูกยิงเข้าที่ศีรษะและกลางอกรวม 2 นัด รวมเสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย
จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ทะเบียน 1กต1540 สระบุรี และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ ไม่ติดป้ายทะเบียน จอดคู่กัน ซึ่งทั้งสองคันเป็นรถของกลุ่มผู้ตาย
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายอนุวัตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ยก2649 นครราชสีมา หลบหนีไม่ทราบเส้นทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังม่วง ได้แจ้งว่าได้ทำการจับกุมรถคันก่อเหตุพร้อมผู้ขับขี่และอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเอาไว้ได้ที่ด่านตรวจ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะนาวหวาน และฝ่ายปกครองอำเภอพัฒนานิคมได้เดินทางไปรับตัวนายอนุวัตรส่งพนักงานสอบสวน สภ.มะนาวหวาน เพื่อทำการสอบ
ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุมีผู้แจ้งว่าได้ยินเสียงอาวุธปืนดัง 4 นัด จึงเดินทางมาดูพบมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ที่บ้านหลังนี้ช่วงเย็นมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมดื่มสุรา เสพยา และเป็นจุดจำหน่ายยาเสพติด
ซึ่งนายอนุวัตรผู้ก่อเหตุมีศักดิ์เป็นหลานเขยนายสีไพรที่ถูกยิงตาย ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะหลบหนีไปมุ่งหน้าด่านตรวจวังม่วงสามารถสกัดจับได้ ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนเสียก่อน เบื้องต้นชนวนเหตุสังหาร 3 ศพน่าจะมาจากการทวงหนี้จากการค้าขายยาเสพติด
พ.ต.ท.เจษฎา ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเองถึงชนวนเหตุ ซึ่งนายอนุวัตร ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ ตนเพิ่งได้ปืนกระบอกดังกล่าวมาจากบ้านที่วังม่วงซึ่งเป็นปืนของตาที่เสียชีวิตไปแล้ว เอามาพกติดตัวเป็นวันแรก
นายอนุวัตร ให้การต่อว่า แต่วันเดียวกันนี้ก่อนที่ตนจะไปก่อเหตุยิงคนตาย ตนมีปากเสียงกับภรรยาอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนที่จะขับรถยนต์มาที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อมาขอมะละกอที่บ้านของนายสีไพร
นายอนุวัตร ให้การอีกว่า เมื่อมาถึงพบมีคนไม่รู้จัก 2 คนเตรียมจะตั้งวงดื่มสุรากับนายสีไพร จึงเอ่ยปากขอมะละกอที่บ้านนายสีไพร แต่กลับถูกนายสีไพร พูดจากระทบกระทั่ง ดูหมิ่นเหยียดหยามสารพัด ซึ่งตนยังมีอารมณ์เคืองขุ่นมาจากบ้าน มาเจอคนด่าจึงเกิดความโมโห
ประกอบกับพฤติการณ์นายสีไพร น้าเขยคนนี้ติดยาเสพติด ชอบไปขอเงินกับเมียตน ซึ่งเป็นหลานสาว รวมถึงขู่เอาเงินจากแม่ยายตนเพื่อเอาเงินไปซื้อยาบ้า พอไม่ให้เงินก็จะข่มขู่คนในบ้านตน และที่สำคัญชอบก้าวร้าวต่อหน้าลูกวัย 4 ขวบ และ 11 ขวบของตน จนขวัญหนีดีฝ่อ ซึ่งตนก็เคยเตือนภรรยาว่าสักวันจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของเรา
นายอนุวัตร กล่าวต่อว่า น.ส.สมใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ภรรยาตน หลานสาวนายสีไพร ประวัติก่อคดีฆ่าอดีตพ่อ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหลังออกมาไม่กลับตัวเป็นคนดีทั้งที่มีอายุมากขึ้น พฤติการณ์นับวันยิ่งก้าวร้าว ดุร้าย เมื่อขาดยา และคลั่งหลังเสพยา ถือได้ว่าเป็นบุคคลอันตรายสำหรับครอบครัวตน
จึงเก็บความแค้นสะสมในใจตลอดมาหลายปี พอมาวันนี้ถูกพูดจาถากถางดูถูก เหยียดหยาม ก่อนโต้เถียงผู้ตายได้คว้าค้อนเพื่อทำร้าย ประกอบกับอีก 2 คนที่นั่งอยู่หัวเราะเยาะเย้ย จึงบันดาลโทสะชักปืนจ่อยิงหัวนายสีไพร 1 นัด และยิงนายคมศรเป็นศพที่ 2 ส่วนนายสมรรถชัย ถูกยิงเป็นศพที่ 3
ซึ่งตนยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องยาเสพติดตนไม่เคยเกี่ยวข้องและเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรักลูก รักครอบครัว และแค้นสะสม จนระเบิดความแค้นรัวกระสุน 4 นัด ตายไป 3 คน ส่วนอีก 2 คน ถ้าไม่ปากเสียไม่เยาะเย้ยตนก็คงจะไม่ตาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ซึ่งนายอนุวัตรยอมรับสารภาพ โดยมีญาติภรรยาและลูกน้อยมาคอยสังเกตการณ์
