ปอศ. เปิดปฏิบัติการค้นทั่วกรุง ทลายแก๊งเงินกู้โหด ข่มขู่-รุมทำร้าย-เร่งรัดหนี้ จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ตรวจสอบเส้นเงินหมุนเวียนเกิน 7 ล้าน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

23 มี.ค. 67 – พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.สั่งการให้พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ สว.กก.5 บก.ปอศ.

เปิดปฏิบัติการปราบปรามเงินกู้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อกวาดล้างจับกุมนายทุนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด มีการใช้กำลังทำร้ายร่างกายลูกหนี้ และรับจำนำรถโดยไม่ได้รับอนุญาต

เป้าหมายแรก เจ้าหน้าที่บุกค้นห้องพักนายทุนย่านหลักสี่ กทม. ทั้งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด รับจำนำจยย. ดอกร้อยละ 120 ต่อปี ไม่ลดต้นไม่ลดดอก” พร้อมจับกุมนายชินภพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี

จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่บุกจับกุมแก๊งหมวกกันน็อคดอกเบี้ยโหด โปรยใบปลิวเกลื่อนเมือง ย่านนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ร้อยละ 40 ต่อ 28 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 520 ต่อปี หากลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ตรงกำหนด จะมีพฤติการณ์ทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย พร้อมเข้าจับกุม นายพิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี และนายธีรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี

จุดที่ 3 เข้าตรวจค้นนายทุนเงินกู้ปล่อยกู้ดอกเบี้ยนอกระบบ ขาโหด ทวงหนี้ไม่จบเคยอัดลูกหนี้จนซี่โครงหัก ก่อนตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 2 ราย คือนายฉัตรมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี และนางน้ำฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ได้ในพื้นที่ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยทราบว่าผู้ต้องหาพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ผู้นอกระบบ ร้อยละ 20 ต่อเดือน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 240 ต่อปี เมื่อลูกหนี้เริ่มผ่อนชำระดอกเบี้ยไม่ตรงกำหนด และไม่ครบจำนวน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูง ก็จะส่งข้อความทวงหนี้ทางไลน์ หรือทวงหนี้ในที่สาธารณะ ร่วมกันด่าทอ-รุมทำร้ายร่างกาย

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 5 ราย พร้อมของกลาง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 7 เล่ม สัญญาเงินกู้ ,สำเนาบัตรประชาชนลูกหนี้ 900 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 20 ใบ นามบัตรโฆษณาเงินกู้กว่า 10,000 ใบ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 5 เล่ม หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 4 ฉบับ

เบื้องต้นตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา พบมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีในความผิดฐาน

“ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ทำร้ายร่างกาย” ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน