หนุ่มใหญ่หลอนยา ถือมีดอีโต้บุกบ้านเมียฝรั่ง 4 ครั้ง คิดว่าเป็นเมียตัวเอง ตะโกนหาว่าเล่นแชร์หมดตัว หนีไปอยู่พัทยา ย้ำพร้อมปกป้องเมีย ตายเป็นตาย

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ได้รับแจ้งจาก น.ส.รัตนาพร อายุ 62 ปี และสามีคือ นายอีวอง หรือตุ่น อายุ 58 ปี ชาวเบลเยียม มาพักอาศัยที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี แจ้งว่าตอนนี้เดือดร้อนหนักมาก เพราะมีนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี หนุ่มใหญ่หลอนยา มีบ้านอยู่ในสวนฝั่งตรงข้ามบ้าน ถือมีดดาบด้ามยาวบุกเข้ามาในบ้าน ถึง 4 ครั้งแล้ว กลัวจะเป็นอันตราย เพราะอยู่กันเพียง 2 คน

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับเจ้าของบ้าน ทั้งนายตุ่น สามีชาวเบลเยียมและน.ส.รัตนาพร นำคลิปวงจรปิดบันทึกภาพนายเอ หนุ่มหลอนยารายนี้บุกเข้ามาภายในบ้าน พบว่า วันที่ 8 เม.ย.67 เวลา 20.35 น.จะได้ยินเสียงนายเอร้องตะโกนมาแต่ไกล จากกระท่อมนาที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้าม

“เป็นอะไรมึงถึงไปเสีย ใครบอกมึง หรือแต่งเรื่องขึ้นมา ห๊า!! บอกให้เลย กูรู้เลยว่ามึงอยู่นี่ มึงต้องตอบให้ได้ จากนั้นก็ปรากฏว่าถือมีดดาบยาว ที่ศีรษะมีไฟส่องสว่าง เดินเข้ามาในบ้าน แล้วก็ร้องตะโกนบอกเจ้าของบ้านว่า ขอโทษเด้อเอื้อย ข่อยไม่ได้มาทำร้ายเจ้าดอก ข่อยอยากรู้ความจริงเฉยๆ ตอบมา กูบอกมึงหลายครั้งแล้วเรื่องแชร์ มึงเสียอยู่พัทยาเท่าไหร่ แล้วหนีลงไปใต้

ขณะนั้นเอง นายตุ่นเจ้าของบ้านก็เปิดประตูออกมา ถามนายเอว่า อีหยังๆ ออกไปๆ ไม่ต้องมาอีกเด้อ จากนั้นก็เห็นนายเอเดินถือมีดดาบออกไปจากบ้าน แต่ยังหลอนยาบ่นพึมพา มึงต้องตอบกูให้ได้ มึงตอบกูไม่ได้นั่นหนากูเอาเรื่องมึงแน่ มึงเอานาไปจำนอง เหมือนหลอนยา แล้วบ่นถึงเรื่องเมียที่หนีไป








Advertisement

อีกคลิปคือวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลา 19.00 น.นายเอ ยังถือมีดดาบจะเข้ามาภายในบ้าน และบ่นเรื่องเมียอยู่ตลอดเวลา แต่นายตุ่นเดินไปดูและสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ 6 ตัว ที่เห่า ทำให้เจ้าตัวไม่กล้าเข้ามาแล้วเดินกลับบ้านไป

น้องชาย หนุ่มหลอน อายุ 52 ปี

น.ส.รัตนาพร บอกว่า ไม่เคยมีเรื่องกับนายเอมาก่อนเลย อยู่บ้านหลังนี้มา 11 ปี แต่พอนายเอเขาย้ายมาอยู่ที่นาฝั่งตรงข้าม น่าจะหลอนยาถือมีดเข้ามาอาละวาด 4 ครั้งแล้ว วันที่ 1 เม.ย.67 เข้ามา 2 ครั้ง ตอนนั้น 1 ทุ่มไปทิ้งขยะหน้าบ้าน นายเอก็เดินดุ่มๆ มาหา เราก็ตกใจวิ่งไปบอกสามี ว่ามีผีบ้ามาเด้อ หนักสุดคือวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือมีดดาบยาว เข้ามาในบ้าน สามีชาวเบลเยียมเขาก็บอกให้ออกไปๆ เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เขาก็กลัว

“อีกอย่างเขามีโรคประจำตัวด้วย ยืนยันเราไม่เคยมีเรื่องกับคนหลอนยาคนนี้เลย และที่เห็นเขาพูดเหมือนเขาคิดถึงเมียบ่นพึมพำ เรื่องเมียที่หนีไปและเมียไปเล่นแชร์อะไรนี่หละ เรากลัวมากเพราะแบบนี้สามีไม่เคยเจอ และเราก็อยู่กัน 2 คน

ครั้งนี้ถือว่าให้โอกาส แต่หากมาอีกเราจะแจ้งความดำเนินคดีแน่ ตอนนี้ดิฉันและสามีพากันกลัวไม่กินข้าว นอนไม่หลับ ไม่รู้เขาจะหลอนยาบุกเข้ามาอีกวันไหน ซึ่งจริงๆ แล้วเราอยากจะเปิดอกคุยกับนายเอว่า เกิดอะไรขึ้น และอย่ารบกวนครอบครัวเราได้มั๊ย” น.ส.รัตนาพร กล่าว

ส่วนนายตุ่น เล่าให้นักข่าวฟังว่า ตอนที่นายเอเข้าเดินเข้ามาในบ้าน ก็ไล่ออกไป ออกไปๆ อย่ามาอีกเด้อ วันที่ 13 เม.ย.เขาก็มาอีก ถือมีดยืนหน้าขึงตาขวางอยู่กลางถนน ก็ไล่ออกไป ดูแล้วไม่ใช่ผีบ้า เขาคงหลอนยา ในสมองเขาเขาคิดว่าเมียตนเป็นเมียเขา ทั้งที่เขาเลิกกันมาหลายปีแล้ว

และเมียไปอยู่พัทยา ตนกลัวเพราะเขามีมีดดาบด้วย พวกตนไม่เคยมีเรื่องอะไรกับเขา อยู่ที่นี่ 11 ปี อยู่อย่างมีความสุข รักเมืองไทย คนไทยน่ารัก แต่ก็อันตราย ดูข่าวตลอดตอนนี้คนไทยเสพเยอะ ยาบ้า 5 เม็ด ถือเป็นผู้ป่วย หากเป็นประเทศตนเป็นแบบนี้ตำรวจจับเข้าคุกเลย

“หากเขาหลอนยาเข้ามาหาเรื่องเมียผมอีก หรือเขาจะทำร้ายเมียผม ผมจะสู้ตายเพื่อเมียผมแน่นอน ตายเป็นตาย แต่ใจผมก็ยังไม่อยากตาย เพราะผมอยากอยู่เมืองไทยอยู่กับภรรยาคนนี้ตลอดไป” นายตุ่น กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่กระท่อมนาของนายเอ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เนื่องจากนายตุ่นและน.ส.รัตนาพร อยากจะพูดคุยด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่อยากให้มารบกวนกันอีก ปรากฏว่าไปถึงไม่พบนายเอ พบแต่น้องชาย อายุ 52 ปี บอกว่า พี่ชายไม่อยู่ไปสนามไก่ชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้ข่าวพี่ชายหลอนยาไปอาละวาดบ้านเมียฝรั่งหรือไม่ น้องชายก็บอกว่า ไม่รู้เรื่องเลย ขนาดนอนอยู่กระท่อมนา พี่ชายก็บ่นและพูดอยู่คนเดียว เป็นมา 2-3 อาทิตย์แล้ว สังเกตอยู่ ขนาดตนเองยังกลัว ไม่รู้ว่าพี่ชายจะฆ่าตอนไหน ต้องถืออาวุธติดตัวด้วย ยอมรับพี่ชายเสพยามากเกินไป

วันก่อนพี่ชายยังร้องบอกตนว่า มึงอย่าเพิ่งกลับ กูจะทำให้มึงดูอะไร เหมือนเขาจะคิดอะไรอยู่ เราฐานะน้องชายก็ต้องระวังอยู่เหมือนกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน