พุ่งเป้าญาติ-คนใกล้ชิด ฆ่าเปลือย 2 ตายาย หมกบ่อน้ำ เก็บรอยนิ้วมือ ดีเอ็นเอ ดูวงจรปิด ตามทาง เช็กความเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก 2 ล้าน ประเด็นอื่นๆไม่ตัดทิ้ง

กรณีพบศพ น.ส.ล้วน อายุ 89 ปี และนายเจื้อง อายุ 85 ปี 2 พี่น้อง ถูกฆ่าแล้วเปลือยร่างจับโยนทิ้งบ่อน้ำหน้าบ้านใน ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร สันนิษฐานตายมาแล้ว 3-4 วัน ที่เกิดเหตุมีร่องรอยคนร้ายลากศพเป็นทางจากเตียงใต้ถุนบ้าน ไปทิ้งบ่อน้ำหน้าบ้าน บนบ้านพบมีร่องรอยรื้อค้นสิ่งของส่วนทรัพย์สินที่หายไปมีมือถือรุ่นเก่า แบบกดปุ่มโทร เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.67 พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เพื่อแบ่งภารกิจแต่ละนายลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเช่นกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเข้าออกที่ผ่านหน้าจุดทางเข้าบ้านหลังเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลปากน้ำหลังสวน ซึ่งทั้ง 2 ไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา

รวมทั้งไปขอข้อมูลกรณีความเคลื่อนไหวบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหลังสวน ที่น.ส.ล้วนผู้ตายมีเงินฝากมากกว่า 2 ล้านบาท รวมทั้งเรียกเก็บรอยนิ้วมือ ดีเอ็นเอ ญาติและบุคคลต้องสงสัย

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนยังให้ข้อมูลว่า ผู้ตายทั้ง 2 แม้จะมีเงินฝากในธนาคารมากกว่า 2 ล้านบาท แต่ผู้ตายจะไม่เก็บเงินจำนวนมากไว้ที่บ้าน หากต้องการจะใช้ก็จะโทรเรียกวินมอเตอร์ไซค์มารับแล้วจะเบิกเงินครั้งละไม่น่าจะเกิน 500 บาทเท่านั้น








Advertisement

นอกจากนั้นตำรวจจุดสืบสวนยังเชิญตัว นายลุต อายุ 57 ปี คนขับวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ในตลาดหลังสวน ซึ่งเป็นคนที่น.ส.ล้วนมักจะโทรเรียกให้มารับ ไปส่งโรงพยาบาลปากน้ำหลังสวน และซื้อข้าวของเครื่องในตลาดหลังสวนอยู่เป็นประจำ

ก่อนพบศพ 2 พี่น้องในช่วงเย็นวันที่ 13 เม.ย. ที่บ่อน้ำบ้านหลังเกิดเหตุ โดยเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันเดียวกันผู้ตายโทรศัพท์ ให้วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง มารับในตลาดหลังสวน พาไปส่งที่โรงพยาบาลปากน้ำหลังสวนตามเวลาหมอนัด

จากนั้นเวลาประมาณ 13.00-14.00 น. ขับไปส่งน.ส.ล้วนที่บ้าน ซึ่งตำรวจคาดว่าคนร้ายก่อเหตุฆ่า 2 พี่น้องในตอนเย็นวันเดียวกัน หลังสอบปากคำเสร็จไม่มีพิรุธหรือหลักฐานเกี่ยวข้องกับคดีและให้กลับบ้าน

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เดินทางด่วนมาโดยเฮลิคอปเตอร์ ลงที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอหลังสวน จากนั้นพร้อมคณะเดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ที่อยู่ห่างจาก สภ.หลังสวน ประมาณ 4-5 กิโลเมตร

โดยเข้าตรวจที่ 2 พี่น้องถูกทำร้ายที่ใกล้เตียงนั่งใต้ถุนบ้าน ที่ยังมีคราบเลือดแห้งเกราะกรัง และจุดลากศพท้งสองไปทิ้งยังบ่อน้ำ จากนั้นขึ้นไปตรวจสอบบนบ้าน ซึ่งเป็นห้องโถงโล่ง มีร่องรอยการรื้อค้นบนที่นอนและในตู้เสื้อผ้า

จากนั้นช่วงบ่าย พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ กลับไปที่ สภ.หลังสวน แล้วเรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนในท้องที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และชุดสืบสวน ภ.8 โดยมี พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน เข้าร่วมประชุมด้วย โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟัง ใช้เวลาประชุมอย่างเคร่งเครียดประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วรีบเดินทางกลับ โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว บอกว่า มีงานด่วนต้องรีบเดินทาง

ในขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ฉลาด ให้ข้อมูลว่า คนร้ายรายนี้ไม่น่าจะเป็นคนอื่นคนไกล น่าจะเป็นคนในเครือญาติ เพราะสาเหตุเชื่อว่า คนในละแวกรู้จักทั้งผู้ตายดี ทั้ง 2 จะไม่เก็บเงินไว้ที่บ้าน หากต้องการจะใช้ก็จะโทรเรียกวินมอเตอร์ไซค์มารับ แล้วจะเบิกเงินครั้งละไม่น่าจะเกิน 500 บาท

“เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาก่อเหตุในช่วงกลางวัน เพราะหากเป็นเวลามืดค่ำ ทั้ง 2 ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ สายตาไม่ดีประกอบกับบ้านที่เกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าใช้ ในบ้านก็ไม่ได้มีข้าวของที่มีค่า อยู่กินง่ายๆ การที่คนร้ายจะมานั้นเสี่ยงมาก เนื่องจากหลายคนรู้ว่าตาทองผู้เสียชีวิตมีอาวุธปืน โดยทางชุดสืบสวน เชื่อว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.ฉลาด กล่าว

พ.ต.อ.ฉลาด กล่าวต่อว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ กระทบจิตใจชาวบ้าน เพราะมีคนตาย 2 ศพ ซึ่งเป็นคนแก่ จึงต้องขอเวลาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด หลักฐานบางอย่างบางเรื่องอยู่ในสำนวนการสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอเวลาอีก 2-3 วันจะสรุปสาเหตุว่าเกิดจากเรื่องอะไร คนร้ายเป็นกลุ่มไหน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ตั้งสาเหตุปมสังหาร 2 พี่น้องทิ้งศพลงบ่อน้ำ ไปที่คนในที่เป็นญาติสนิท จากเรื่องที่ดินและทรัพย์สิน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานหาให้แน่นหนาก่อนจะขออนุมัติศาลออกหมายจับ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2-3 วันนี้ จะสามารถจับคนร้ายได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน