เอซุส อาร์โอจี โฟน 3 – เอซุส ผู้พัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เกมมิ่งชื่อดังจากไต้หวันตอกย้ำความสำเร็จของสมาร์ตโฟนสำหรับเล่นเกม หรือเกมมิ่งโฟนอีกครั้งด้วย เอซุส อาร์โอจี โฟน 3 (Asus ROG Phone 3) ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดตระกูลอุปกรณ์ เกมมิ่งอย่าง Republic of Gamers (ROG) ชื่อนี้รับรองได้ว่าไม่มีเกมเมอร์คนไหนไม่เคยได้ยิน

เว็บไซต์ แอนดรอยด์อูธอริตี นำประสบการณ์การใช้งานมาตีแผ่ให้ได้ทราบกัน

ดีไซน์

เริ่มจากดีไซน์ของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ดูผิวเผินแล้วจะค่อนข้างละม้ายคล้ายรุ่นก่อนหน้าในช่วง 2 ปีก่อน โดยรุ่นแรกนั้นมีลวดลายเตะตาเป็นสีส้มที่ช่องระบายอากาศแบบหลายหลุม ต่อมากลายเป็นช่องระบายอากาศแบบเดี่ยว มาถึงรุ่นใหม่นี้ทางเอซุสทำให้ช่องระบายอากาศนั้นดูกลม กลืนไปกับสีของตัวเครื่องแทน ทำให้ดีไซน์ทั้งหมดนั้นดูเรียบหรูมากขึ้น

ขนาดของเครื่องอยู่ที่กว้าง 78 ยาว 171 หนา 9.85 มิลลิเมตร น้ำหนัก 240 กรัม ตัวเครื่องเป็น Gorilla Glass 6 ประกอบสองด้านกับขอบอะลูมิเนียม แต่ไม่ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นติดมาด้วยเนื่องจากช่องระบายลมร้อนที่ด้านหลัง แต่น่าจะพอรับมือได้ในสภาพฝนพรำ และหมอกหนา เนื่องจากระบบระบายความร้อนภายในแบบพัดลม Aerodynamic system cooling fan

  • ภาพทดสอบ – มาโคร

ตำแหน่งของโมดูกล้องด้านหลังของเครื่องเป็นลักษณะแถบขวางจากมุมบนซ้าย ถือว่าเป็นการออกแบบที่ค่อนข้างแหวกแนว เอซุสระบุว่า เป็นผลมาจากรูปแบบพิเศษของเมนบอร์ดด้านใน ส่งผลให้ USB-C ที่ขอบล่างเบี่ยงไปทางซ้าย ไม่มีช่องมินิ สเตอริโอสำหรับหูฟัง เป็นผลมาจากพื้นที่ที่ต้องใช้มากขึ้นภายในตัวเครื่องจาก X55 modem

สำหรับขอบด้านซ้ายจะพบถาดใส่ซิมการ์ดแบบรองรับ 2 ซิม และช่อง USB-C แบบคู่ แม้ผู้ใช้จะเสียบสายชาร์จด้านนี้แทนได้ แต่ความจริงแล้วออกแบบมาเพื่อไว้รับกับอุปกรณ์เสริมอย่าง AeroActive 3 ที่แถมมาให้เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายความร้อนเวลาต้องเล่นเกมจริงๆ จังๆ ผ่าน X Mode ซึ่งเป็นการโอเวอร์ คล็อกฮาร์ดแวร์ภายในช่วยผลักดันประสิทธิภาพของเครื่องให้ทะลุขีดสุด

AeroActive 3 นี้เองที่จะมีช่องมินิสเตอริโอสำหรับหูฟัง และ USB-C อีก 1 ช่องสำหรับต่ออุปกรณ์อื่นๆ พร้อมโลโก้ ROG ที่เป็นไฟ RGB สุดเท่ที่ด้านหลัง แม้การพกอุปกรณ์เสริมจะไม่ค่อยสะดวกก็ตาม

  • ซอฟต์แวร์ปรับแต่ง

ขอบบนของสมาร์ตโฟนไม่มีปุ่มใดๆ แต่ขอบขวานั้นน่าสนใจ ไม่ใช่เพราะปุ่มเพาเวอร์ และปรับระดับเสียง แต่มีปุ่ม Air Triggers ซึ่งเป็นปุ่มที่ทำงานด้วยระบบคลื่นเสียงอัลตราโซนิก เอาไว้ใช้เป็นปุ่มเหมือน L กับ R เวลา เล่นเกม

ด้านหน้าของสมาร์ตโฟนเป็นจอภาพขนาด 6.59 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีจอ AMOLED ความละเอียด 2,340×1,080 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 391 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตราส่วนภาพ 19.5:9 ไม่มีติ่งหยดน้ำ รองรับความถี่สูงสุดถึง 144 เฮิร์ตซ์ (Hz) ความสว่างสูงสุด 650 นิต และรองรับภาพแบบ HDR10+ รวมทั้งมีขอบบางเฉียบซึ่งส่วนบนนั้นเป็นที่อยู่ของกล้องเซลฟี่มุมขวา รวมทั้งลำโพงสเตอริโอที่ขอบบนและล่าง สัดส่วนจอต่อตัวเครื่องร้อยละ 79.9

  • ช่องระบายอากาศแบบใส

ลำโพงสเตอริโอของ เอซุส อาร์โอจี โฟน 3 ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มีไดรเวอร์กำลังสูงขึ้นเพื่อสร้างเสียงเบสที่มีพลัง เป็นแม่เหล็กถึง 7 ชิ้น โดยการทดสอบพบว่า คุณภาพเสียงน่าประทับใจ เพราะนอกจากเสียงดัง มีพลัง แล้วยังไม่มีผิดเพี้ยนของเสียงให้ได้ยินด้วยที่ระดับเสียงดังมากๆ โดยถือว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่เสียงเบสทรงพลังที่สุดแล้วชั่วโมงนี้

อาร์โอจี โฟน ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกๆ ของโลกที่รองรับความถี่สูงถึง 90Hz ต่อมาเพิ่มเป็น 120Hz และรุ่นนี้ก็เพิ่มเป็น 144 Hz นำหน้าสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ของปีนี้ไปอีกขั้น นอกจากนี้ จอภาพของ อาร์โอจี โฟน 3 ยังมีอัตราการตอบสนองไวถึง 1 มิลลิวินาที (ms) และความไวของจอรับการสัมผัสเพิ่มจาก 240 เป็น 270 Hz ส่งผลให้ประสบการณ์การใช้งานนั้นว่องไวน่าประทับใจมาก

แม้จะแยกความแตกต่างระหว่างจอความถี่ 120 กับ 144 Hz แทบไม่ออกก็ตาม แต่การที่สมาร์ตโฟนมาถึงจุดนี้ได้อย่างรวดเร็วถือว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก

ที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งสำหรับจอภาพนี้ คือ ความหนาแน่นของพิกเซลและความสว่างที่น้อยกว่าที่คาดไว้ แต่สำหรับนักกีฬาอีสปอร์ตแล้ว เรื่องความสวยงามคมชัดของภาพนั้นต้องมาทีหลังเรื่องอัตราเฟรมเรต เช่นเดียวกันกับสีที่แม้อยู่ในเกณฑ์ดีแต่ก็ไม่ได้มีความถูกต้องสูงเท่าไหร่ จุดนี้ไม่ได้จำเป็นต่อการเล่นเกมเชิงแข่งขัน

เอซุส อาร์โอจี โฟน 3 มีประสิทธิภาพที่แรงสุดขั้ว เพราะใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) อย่าง Qualcomm Snapdragon 865+ จากประเทศสหรัฐอเมริกา บนสถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7 นาโนเมตรพลัส (7nm+) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ 8 คอร์ (Octa-core) แบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ ความถี่สัญญาณนาฬิกา 3.1 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 1 คอร์ ความถี่ 2.42 GHz จำนวน 3 คอร์ และสุดท้ายเป็นความถี่ 1.8 GHz จำนวน 4 คอร์

  • เบนช์มาร์กสูงลิบ

หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น Adreno 650 หน่วยความจำแรม (RAM) 8, 12 และ 16 กิกะไบต์ (GB) ตามพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) ได้แก่ 128, 256 และ 512 GB ตามลำดับ บนอินเตอร์เฟซอัตราการส่งข้อมูล UFS 3.1

เอซุส ถือเป็นเจ้าแรกๆ อีกเช่นกันที่พัฒนาสมาร์ตโฟนซึ่งใช้ SoC ที่รองรับการโอเวอร์คล็อก

เริ่มมาตั้งแต่รุ่น Snapdragon 845 ในอาร์โอจี โฟน รุ่นแรก ส่งผลให้ทางค่าย Qualcomm พัฒนา SoC รุ่นพิเศษเหล่านี้ออกมาโดยเติมคำว่าว่าพลัสลงไปที่ด้านหลังต่อท้าย ผสานกับแรม GDDR5 และ UFS 3.1 ทำให้เบนช์มาร์กที่วัดผ่านแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 นั้นออกมาอย่างน่าตื่นตะลึง ด้วยคะแนนมหาศาลถึง 4,520 แต้มสำหรับการประมวลผลคอร์เดียว และ 13,367 แต้มสำหรับการประมวลผลหลายคอร์

รวมไปถึงผลการทดสอบจากแอพฯ AnTuTu เช่นกัน บ่งบอกว่า อาร์โอจี โฟน 3 เป็นสมาร์ตโฟนที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ทางแอนดรอยด์อูธอริตีเคยทดสอบมา เรียกว่าแทบจะใช้แทนคอมพิวเตอร์พีซีได้เลย

แบตเตอรี

สำหรับระยะเวลาการใช้งานจากแบตเตอรี่ 6,000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) ถือว่านานอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ค่อนข้างไม่แน่นอน โดยจากการทดสอบพบว่าใช้งานได้นานถึงเกือบ 10 ชั่วโมง แต่บางครั้งก็ใช้ได้ราว 7 ช.ม. และหากใช้งานเบาๆ ก็อยู่ได้ถึง 2 วัน คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากระบบปรับความถี่จออัตโนมัติ

  • แอโร่แอ๊กทีฟ 3

ด้านการชาร์จนั้นทางเอซุสแถมชาร์จเจอร์ขนาด 30 วัตต์ (W) มาให้ ชาร์จได้ร้อยละ 50 ภายในเวลาเพียง 30 นาที และร้อยละ 87 ในเวลา 1 ช.ม. ถือว่ารวดเร็วมากสำหรับแบตฯ ขนาดใหญ่เท่านี้ แต่หากชาร์จจนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะใช้เวลาราว 107 นาที เนื่องจากธรรมชาติของแบตฯ นั้นเมื่อใกล้เต็มก็จะอัดไฟเข้าไปได้ช้าลง

  • โมดูลกล้องนูนออกมาเล็กน้อย

กล้องถ่ายภาพ

กล้องของอาร์โอจี โฟน 3 นั้นดีกว่าที่ผู้ทดสอบคาดไว้ แม้ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่สนใจเกมมิ่งโฟนจะไม่ค่อยสนใจเรื่องกล้องก็ตาม ได้แก่ กล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (MP) เลนส์วายความละเอียด 13 MP และเลนส์มาโคร ความละเอียด 5 MP ส่วนกล้องเซลฟี่นั้นความละเอียด 24 MP โดยเซ็นเซอร์ของเลนส์หลักเป็น IMX686 จากค่ายโซนี่ ประเทศญี่ปุ่น ให้สีที่จัดจ้าน ไดนามิกเรนจ์ยอดเยี่ยม และแสงเงาในเกณฑ์ดี เช่นเดียวกันกับคลิปความละเอียด 8K ที่ดีเกินคาด แม้จะไม่มีตัวต่อต้านการสั่นของภาพก็ตาม

  • ภาพทดสอบหลัก

แอนดรอยด์อูธอริตีสรุปว่า อาร์โอจี โฟน 3 เป็นเกมมิ่งโฟนที่ดีที่สุด แม้จะไม่ดึงดูดลูกค้าส่วนใหญ่ แต่ด้วยราคาที่ระดับ 36,000 บาท ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีทันสมัยที่เกินคุ้ม รองรับ 5G ควบรวมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยวไม่ซ้ำใคร และซอฟต์แวร์สำหรับปรับแต่งที่ทางเอซุสออกแบบมาอย่างพิถีพิถันแล้ว

ผู้กำลังมองหาสมาร์ตโฟนเล่นเกม หรือแม้กระทั่งโดดเด่น กว่าใคร ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

โดย จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน