นายวัลลภ ว่องจิตต์วุฒิไกร รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอที เพื่อเปิดสาขาธนาคารกสิกรไทยในรูปแบบสาขาขนาดย่อม ในร้านบานาน่าของคอมเซเว่น เพื่อพัฒนาศักยภาพช่องทางสาขา และรูปแบบการให้บริการ ในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดรอบนอก ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าไอทีและทำธุรกรรมทางการเงินได้เหมือนใช้บริการในสาขาของธนาคารปกติ

และได้เปิดดำเนินการที่เทสโก้ โลตัส ยโสธร ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มียอดเปิดบัญชีต่อเดือนเพิ่มสูงขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับสาขาปกติ มีแผนจะเปิดสาขาขนาดย่อมร่วมกับร้านบานาน่าอีก 20 สาขา ในพื้นที่ต่างจังหวัดรอบนอกที่มีศักยภาพ โดยในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้รวม 3 แห่ง ที่ยโสธร ชัยภูมิ และชลบุรี อย่างไรก็ตาม รูปแบบสาขาขนาดย่อมยังช่วยให้ธนาคารสามารถประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับการเปิดสาขาเต็มรูปแบบ ด้วยขนาดพื้นที่ที่เล็กลงเหลือประมาณ 25-30 ตร.ม. และจำนวนพนักงานประจำเพียง 3-4 คนต่อสาขา

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การขยายสาขาร่วมกันเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้ง 2 ฝ่าย โดยคอมเซเว่น มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด และมีสินค้าครอบคลุมความต้องการ รวมทั้ง มีธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนยอดขายและจำนวนลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี การจับมือกับธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ นับเป็นโมเดลนำร่อง และเป็นร้านค้าปลีกไอทีรายแรกที่มีการให้บริการธุรกรรมทางการเงินในสาขาเดียวกัน ซึ่งมองว่าจะสามารถต่อยอดความสำเร็จอื่นๆ ได้ในอนาคต ที่สำคัญคือสร้างความสะดวกสบายของลูกค้าซื้อสินค้าและเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

ปีนี้ตั้งงบประมาณลงทุน 380 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้ขยายสาขา 220 ล้านบาท, ปรับปรุงสาขาเดิม 60 ล้านบาท, กิจกรรมทางการตลาด 50 ล้านบาท, ลงทุนในบริษัทในเครือ 20 ล้านบาท, ธุรกิจออนไลน์ 20 ล้านบาท และแฟรนไชส์ Banana Store.com อีก 10 ล้านบาท ทั้งปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากในปีที่ผ่านมา โดยได้เพิ่มกลุ่มสินค้าและบริการ รวมทั้งขยายสาขา คาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมกันกว่า 600 สาขา แบ่งเป็นสาขาภายใต้การบริหารของบริษัทกว่า 500 สาขา และแฟรนไชส์ร่วม 100 สาขา ภายใต้แบรนด์ บานาน่า ช็อปปิ้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน