นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้ผู้ค้าน้ำมัน 7 ราย เช่น บางจาก ปตท. ไทยออยล์ ซัสโก้ และไออาร์พีซี เริ่มจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษชนิดบี 20 แก่ผู้ประกอบการขนส่ง 24 ราย เพื่อใช้สำหรับรถบรรทุกสินค้าและรถโดยสารสาธารณะที่มีการปรับสภาพเครื่องยนต์แล้วในราคาถูกกว่าดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะทดลองใช้ในเรือด่วนเจ้าพระยาพร้อมกันด้วย แต่ยังไม่เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ในรถกระบะ
“กระทรวงพลังงานพยายามรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร จึงได้พัฒนาน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษชนิดบี 20 มาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าอุดหนุน เพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนราคาเชื้อเพลิงในประเทศที่ส่งผ่านไปยังประชาชน แม้จะยอมรับว่ามีโอกาสที่ราคาน้ำมันตลาดโลกจะพุ่งขึ้นไปที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หากได้รับผลกระทบจากนโยบายทางการเมือง สงครามการค้า แต่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้นๆ เท่านั้น ยิ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาค่าโดยสารและค่าบริการขนส่งสินค้าแน่นอนตลอดในช่วงที่เหลือของปีนี้”
นอกจากนี้ ยังช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์ม (ซีพีโอ) ที่มีล้นตลาด และช่วยรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มดิบไม่ให้ต่ำกว่า 3.50 บาทต่อกิโลกรัม (ก.ก.) โดยในระยะแรกประเมินว่าความต้องการใช้น้ำมันบี 20 จะอยู่ที่ 1.5 ล้านลิตรต่อเดือน จากผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสารประมาณ 8.8 แสนคันทั่วประเทศ ช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มได้เพิ่มอีก 3-4 แสนตันต่อปี จากปริมาณน้ำมันปาล์มทั่วประเทศที่มีประมาณ 2.2 ล้านตันต่อปี ต้องใช้เงินอุดหนุนประมาณ 4.8 ล้านบาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานยืนยันยังไม่มีแนวคิดนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีน้ำมันมาอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) โดยก่อนหน้านี้ได้นำเงินในบัญชีแอลพีจีอุดหนุนแอลพีจีเองไปแล้วเดือนละ 300 กว่าล้านบาท ส่งผลให้เงินกองทุนในส่วนของบัญชีแอลพีจีเหลืออยู่ไม่มากนัก ซึ่ง กบง. อยู่ระหว่างหารือแนวทางที่จะเข้ามาดูแลราคาแอลพีจีให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันของโลก (โอเปก) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้น 2-3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลก่อนหน้านี้ แต่ราคาน้ำมันตลาดโลกก็กลับมาเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ที่ระดับ 75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปกติแล้ว
นายศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพิจารณาแนวทางรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ระบบโคเจนเนอเรชั่น ที่จะหมดสัญญาในช่วงปี 2560-2568 นั้น กระทรวงพลังงานมีนโยบายพิจารณาให้ทุกรายได้สิทธิ์เหมือนกัน คือจะได้รับการต่ออายุ ในปริมาณรับซื้อเท่าดิม ในปริมาณไม่เกิน 90 เมกะวัตต์ต่ออายุออกไปอีก 3 ปีนับจากวันสิ้นสุดสัญญา หลังจากนั้นจะมีการรับซื้ออย่างไร กระทรวงพลังงานกำลัง พิจารณารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมอีกครั้ง คาดว่าจะมีการพิจารณาในการประชุม กบง. วันที่ 4 ก.ค.นี้ แต่รูปแบบจะแตกต่างไปจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดิม
