นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าพัฒนาธุรกิจ ด้วยมุ่งผลักดันพลังงานให้เกิดความยั่งยืน เพื่อตอบสนองทิศทางการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศ ที่มีการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่สะอาด ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยกำลังมุ่งไปสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจพลังงานในภูมิภาคนี้ ภายใต้นโยบายพลังงาน 4.0 ภาครัฐได้มีการส่งเสริมให้ภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านหลายมาตรการต่างๆ ตั้งแต่การกระตุ้นให้ใช้พลังงานอย่างประหยัด ไปจนถึงการสนับสนุนการผลิตพลังงานทางเลือก

ดังนั้นหากภาครัฐเปิดให้มีการนำเข้าพลังงานทางเลือก เพื่อสร้างให้เกิดการแข่งขันทำให้ต้นทุนแข่งขันได้ และภาครัฐไม่ต้องใช้เงินเข้าไปสนับสนุนเพื่อพยุงราคาพลังงานไม่ให้สูงเกินไป เพราะจากปัจจุบันพลังงานทางเลือก อย่าง ไบโอดีเซล ไบโอฟิล หรือไบโอเอธานอล จะผลิตในไทย ทำให้ต้นทุนผลิตไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบพืชผล และรัฐต้องใช้เงินเข้าไปสนับสนุนจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ความต้องการและการบริโภคพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในประเทศและในระดับโลกยังคงมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีปริมาณการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 11.87% ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นนี้นับเป็นหนึ่งในสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมพลังงานโดยรวมที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามมา และสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังต้องการพลังงานที่ใช้ได้อย่างเพียงพอ ขณะเดียวกันต้องช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไปได้พร้อมๆ กัน

องค์ประกอบสำคัญของเชลล์ที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่มีประสิทธิภาพและดีต่อสิ่งแวดล้อม คือ การพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น นวัตกรรมด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดมากขึ้น นอกจากนี้ การนำเอทานอล 100% มาใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แทนแบตเตอรี่ไฟฟ้า นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจและสอดคล้องกับนโยบายด้านพลังงานของประเทศไทย เพราะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สนับสนุนภาคเกษตรกรรม และสร้างความมั่นคงด้านการจัดหาวัตถุดิบโดยใช้ผลผลิตในท้องถิ่น เพื่อลดการนำเข้าพลังงานหรือน้ำมันดิบจากต่างประเทศได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน