นายกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายกรดไขมันทรานส์ จากน้ำมันที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils-PHO) ที่ส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งสาธารณชนให้ความสนใจ และเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าและประชาชน โดยบริษัทได้เปิดแถลงข่าวยืนยันพร้อมให้ความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเอสแอนด์พี ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของไขมันทรานส์
อย่างไรก็ดี เอสแอนด์พี ได้เริ่มดำเนินการปรับสูตรการผลิตและสายการผลิตกลุ่มสินค้าเบเกอรี่ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 พร้อมกันกับที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐได้กำหนดให้ระบุปริมาณไขมันทรานส์บนฉลากสินค้าที่แสดง โดยได้ร่วมมือกับคู่ค้ากว่า 100 รายให้เลิกใช้ไขมันทรานส์ในวัตถุดิบ พร้อมขอหลักฐานยืนยันและทำการตรวจสอบสินค้ามาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการนำผลิตภัณฑ์ของเอสแอนด์พี ส่งวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ จึงสามารถยืนยันได้ว่า สินค้าเบเกอรี่ของบริษัท มีปริมาณไขมันทรานส์ 0 กรัมต่อ 1 เสิร์ฟ หรือ ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติบไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของไขมันทรานส์ โดยได้ระบุข้อมูลโภชนาการอย่างชัดเจนบนผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
“เราเป็นเด็กดีของสังคมและหน่วยงานของรัฐมานานแล้ว พอเห็นประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ แล้วรู้สึกดี เพราะจากนี้ไปจะมีสินค้าที่ดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ก็เห็นใจผู้ประกอบการรายเล็กที่ต้นทุนอาจต้องเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การที่มีประกาศฯ ดังกล่าวเป็นผลดีกับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคเอง”นายกำธรกล่าว
ด้านนายนายประเวศวุฒิ ไรวา ประธานกรรมการบริหารการ บริษัท เอส แอนด์ พี กล่าวเสริมว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ถือเป็นผลดีทำให้ผู้บริโภคเข้าใจมากขึ้นและเป็นผลดีกับทั้งอุตสาหกรรม เพราะในอดีตที่ผ่านมาเอสแอนด์พี มีความตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภค แต่เราไม่สามารถแจ้งให้กับผู้บริโภคทราบได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพราะมีกฎข้อบังคับของสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แต่การที่มีประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก็เป็นผลดีกับบริษัท เพราะทำให้เราสามารถพูดได้ว่าเราทำสิ่งที่ดีทำให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอด และในแง่การตลาดน่าจะเป็นผลดีสำหรับเรา เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้าเอสแอนด์พี จะถูกผู้บริโภคต่อว่าเรื่องสินค้าของเอสแอนด์พีมีราคาแพง แต่จริงๆ สินค้าเราสมเหตุสมผลมากกว่าเพราะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
