‘สนธิรัตน์’ปลื้มชาวบ้านขอบคุณ ‘พาณิชย์’ช่วยลดค่าครองชีพ ขอรัฐบาลคงบัตรสวัสดิการตลอดไป

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่จังหวัดอุดรธานีว่า ได้ใช้โอกาสที่รัฐบาลจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 9/2561 ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม 2561 ลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อดูว่ากระทรวงพาณิชย์จะให้การสนับสนุนอะไรเพิ่มเติมได้บ้างเพื่อช่วยขับเคลื่อนการค้า ขายในระดับชุมชนให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้เยี่ยมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ “ร้านสิทธิ แอนด์ แมว มินิมาร์ท” ซึ่งเป็นร้านแบบใช้เครื่องรูดบัตร EDC และร้านค้าธง ฟ้าประชารัฐ “ร้านแววผ้าฝ้าย” ซึ่งเป็นร้านแบบใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ ที่ ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี และประชาสัมพันธ์ป้ายไฟแอ พพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับทราบว่าเป็นร้านที่รับชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐทางมือถือ สามารถที่จะเข้ามาใช้บริการได้ รวมทั้งได้เชิญชวนให้ร้านค้ารายย่อย ร้านโชวห่วย ร้านค้าในตลาดสดร้านข้าวแกง ร้านอาหารปรุงสำเร็จ แผงลอย รถเร่ ในพื้นที่จ.อุดรธานี มาเข้าร่วมเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐด้วย

ระหว่างการพบปะประชาชน ชาวบ้านที่ถือบัตรสวัสดิการประชารัฐได้เข้ามาขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ช่วยเหลือลดภาระด้านค่า ครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย และขอให้พิจารณาให้บัตรนี้คงอยู่ตลอดไป เพราะมีประโยชน์จริง ที่ได้วงเงินในแต่ละเดือนสำหรับซื้อสินค้าที่ร้าน ค้าธงฟ้าประชารัฐและยิ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มจำนวนร้านค้าให้เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะร้านค้ารายเล็กรายน้อย ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านมี โอกาสในการซื้อสินค้าได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซื้อหมู ไก่ ไข่ ผัก ผลไม้ รวมทั้งใช้กินข้าวแกง อาหารตามสั่งได้ด้วย ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย มากขึ้น

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ได้ยืนยันกับประชาชนว่ากระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ ให้มีจำนวน เพิ่มเป็น 1 แสนราย จากปัจจุบันมีร้านค้าสมัครเข้ามาแล้วเกือบ 3.7 หมื่นราย ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2561 เพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริโภค สินค้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้า จากการที่ผู้ถือบัตรมาจับจ่ายใช้สอย

“ตอนนี้มีการใช้จ่ายเงินในบัตรผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารับแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐแล้วเกือบ 700 ล้านบาท ซึ่งหากมีจำนวนร้านค้า เพิ่มขึ้น ก็จะมีวงเงินเพิ่มมากขึ้น เพราะในแต่ละเดือนรัฐบาลได้ใส่เงินเข้าไปในบัตรกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งวงเงินตรงนี้ จะกระจายเข้าสู่ร้านค้า ทั้งร้านค้าแบบติดตั้งเครื่องรูดบัตรและร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ โดยกระทรวงฯ อยากจะเชิญชวนให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วม โครงการให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง และเพิ่มทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้ถือบัตร”นายสนธิรัตน์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ล่าสุดถึงวันที่ 6 ธ.ค.2561 มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 70,344 ร้านค้า แบ่งเป็น ร้านค้าแบบเครื่องรูดบัตร EDC จำนวน 33,448 ราย และเป็นร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐจำนวน 36,896 ราย และมีรายได้ จากการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรรวม 48,869 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตร 48,206 ล้านบาท และร้านค้าที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นถุง เงินประชารัฐ 662 ล้านบาท

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ยังได้เข้าเยี่ยมชมตลาดผ้าบ้านนาข่า โดยปัจจุบันมีร้านค้าในตลาด 120 ร้านค้า และร้านค้าในพื้นที่ตลาดโดย รอบอีกประมาณ 70 ร้านค้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ผลิตผ้าฝ้ายและผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ผ้าผืน และมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก ผ้าทอมือ ซึ่งเป็นผ้าที่มีลักษณะโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะของผ้าพื้นเมืองของจังหวัดอุดรธานีและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เหมาะซื้อเป็นของ ฝาก ของที่ระลึก โดยกระทรวงฯ มีเป้าหมายที่จะผลักดันและยกระดับตลาดผ้านาข่า ให้เป็น Smart Market เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางตลาดผ้า ทอมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าผ้าทอมือของทุกจังหวัด ในประเทศไทย เพื่อเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะช่วยผลักดันและทำการเชื่อมโยงตลาดบ้านนาข่าเข้ากับการท่องเที่ยว เพราะตลาดอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จังหวัดได้แก่ วัดนาคาเทวี ทะเลบัวแดง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อารยธรรม 5,000 ปี วัดป่าภูก้อน พระพุทธบาทบัวบก คำชะโนด เป็นต้น ซึ่ง หากเชื่อมโยงกันได้ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับจังหวัดได้อีกมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน