นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 5 ปี วางเป้าหมายยอดรายได้จากการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ 57,785 ล้านบาท ในปี 2563 หรือเกิน 5 เท่าจากปี 2558 ที่มียอดรับรู้รายได้ที่ 9,598 ล้านบาท

สำหรับในปี 2560 บริษัทฯ เตรียมรุกตลาดอย่างหนัก ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 41,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีก่อน ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 12 โครงการ มูลค่า 36,400 ล้านบาท และที่อยู่อาศัยแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 5,400 ล้านบาท ทั้งนี้ จะเป็นโครงการที่มี มิตซุย ฟุโตซัง ร่วมทุนมากกว่า 9 โครงการ

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเดินทางไปนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อดูงานพัฒนาอาคารสูง สำหรับนำมาปรับใช้ในโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ ทำเลโชว์รูมรถยนต์มาสด้าเดิม ตรงข้ามสวนลุมพินี ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลุมพินี ซึ่งจะเป็นโครงการไฮไลต์ในปีนี้ ส่วนราคาขายในเบื้องต้นเริ่มต้นที่ 300,000 บาทต่อตร.ม.

ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายยอดขายในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 30,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปี 2559 ที่ทำได้ 25,175 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมาย 21% ขณะที่สิ้นปีที่ผ่านมามียอดขายรอรับรู้รายได้จากการโอน (แบ็กล็อก) 41,249 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้า โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากปีที่แล้วที่มียอดรับรู้รายได้ 15,866 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 65% ขณะที่กำไรสุทธิปี 2559 ที่ 1,501 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 24% สำหรับงบประมาณในการซื้อที่ดินในปีนี้ 14,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาใน 1-3 ปีข้างหน้า

โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเพื่อรองรับการพัฒนาในปี 2560-2561 แล้วรวม 18 แปลง อาทิ สถานีลุมพินี ซึ่งระดับราคา 300,000 บาทต่อตร.ม. นอกจากนี้ ยังมีสถานีคลองเตย วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เอกมัย พร้อมพงษ์ อุดมสุข แบริ่ง พระราม 9 รามคำแหง บางรักใหญ่ ติวานนท์ และบางยี่ขัน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงของระบบขนส่งมวลชน จากการขยายสถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จาก 81 สถานี เป็น 300 สถานี ทำให้บริษัทฯ เติบโตได้ตามเป้าหมาย จากแบรนด์คอนโดมิเนียมของบริษัทที่ติดตลาดแล้ว ในเวลาเดียวกันก็กำลังมองหาการเติบโตในตลาดบ้านแนวราบด้วยเพื่อให้ได้สัดส่วนรายได้ประมาณ 20% พร้อมกันนี้ยังขยายสู่การลงทุนเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ บนถนนพระราม 9 เพื่อสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ มองว่ายังมีตลาดในการเติบโต

ด้านมุมมองตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ถ้าดูจากปัจจัยมหภาคสถานการณ์เศรษฐกิจยีงไม่ฟื้นตัว ขณะที่อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินชะลอตัว ต้นทุนการก่อสร้างถูกจำกัด ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังสูง ลูกค้ายังมีความมั่นคงทางรายได้และเครดิตดี ความต้องการซื้อและการพัฒนาคอนโดมิเนียมในแต่ละสถานีมีความแตกต่างกัน ทำให้ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า มีประสิทธิภาพมากกว่าคอนโดมิเนียมในทำเลอื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน