นายดวงฤทธิ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ แจม แฟคตอรี่ จำกัด เจ้าของโครงการสร้างสรรค์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้ชื่อ เดอะ แจม แฟคตอรี่ (The Jam Factory) เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้ามาปรับปรุงโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านถนนคลองสาน พื้นที่ 4 ไร่ ได้เพียง 3 ปี พบว่าธุรกิจมีการขยายตัวและประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย

ทำให้บริษัทฯ กำหนดทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยวางงบขยายการลงทุนในปีนี้ราว 200 ล้านบาท โดยระดมทุนจากผู้ร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม พร้อมวางเป้าหมายรายได้ในระยะ 3 ปี 500 ล้านบาท และ 8 ปีที่ 2,000 ล้านบาท ภายใต้โครงสร้างธุรกิจการพัฒนาโครงการครีเอทีฟ คอมมูนิตี้ คอมเพล็กซ์ ซึ่งนอกจากโครงการแจม แฟคตอรี่ คลองสานแล้ว ในเดือนมี.ค.นี้ ยังเตรียมเปิดโครงการแวร์เฮ้าส์ 30 ใกล้ไปรษณีย์กลาง บางรัก และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) แห่งใหม่

รวมถึงธุรกิจโรงแรมที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกภายใต้ชื่อ โฮเทล โบคาจ โรงแรมแนวคิดใหม่ตั้งอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำหนดเปิดให้บริการเฟสแรก 6 ห้อง ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ และกลางปีจะเปิดเพิ่มอีก 10 ห้อง รวมเป็น 16 ห้อง

นอกจากนี้ ในปลายปีจะเปิดให้บริการโฮเทล โบคาจ กรุงเทพฯ ย่านคลองสาน โดยเป็นการนำบ้านโบราณมาปรับปรุงเป็นโรงแรมขนาด 7 ห้อง พร้อมกับจะขยายการลงทุนต่อเนื่องในปีหน้าอีก 30 ห้องในทำเลใกล้กัน โดยยังคงแนวคิดเดิมคือการนำอาคารเก่ามาปรับปรุง ซึ่งอัตราค่าบริการเริ่มตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท/คืน/ห้อง

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางจุดขายเป็นดีไซน์โฮเทล ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีเพียง 400 แห่ง และบริษัทฯ ทำตลาดผ่านเว็บไซด์ดีไซน์โฮเทล ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบโรงแรมในลักษณะนี้ในทันที นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเข้าไปทำตลาดประเทศจีนด้วย

อย่างไรก็ดี เนื่องจากโครงการเดอะ แจม แฟคตอรี่ คลองสาน เป็นแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งภายในโครงการมีธุรกิจร้านอาหาร The Never Ending Summer เป็นอาหารไทยสูตรดั้งเดิม ซึ่งเป็นจุดแข็งของร้านอาหาร ได้การตอบรับดี จากต่างชาติและคนไทย ทำให้ปัจจุบันขยายร้านอาหารนานาชาติ Summer House Project ในพื้นที่เดียวกัน พร้อมขยายที่นั่งจาก 50 ที่นั่ง เป็นกว่า 200 ที่นั่ง และสร้างรายได้ต่อเดือน 6 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทฯ ต่อยอดสู่การผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (คอนวีเนี่ยนฟู้ด) ระดับพรีเมียม ในแบรนด์ The Never Ending Summer ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนต.ค.ปีนี้ เบื้องต้นมี 8 เมนู ประเภทแกงกะทิ อาทิ ข้าวแกงเขียวหวาน และพะแนง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เจรจากับผู้จัดหน่ายรายใหญ่ เพื่อให้กระจายสินค้าผ่านข่องทางกูเม่ต์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ และวิลล่า เป็นต้น โดยราคาอยู่ระหว่าง 120-160 บาท ซึ่งตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาท ภายใน 2 ปี ขณะเดียวกันคาดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้า เตรียมขยายธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ปารีส ฝรั่งเศส และบาร์เซโรน่า สเปน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน