นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ยอดขอคืนภาษีล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นราย โดยคาดว่าช่วงสุดท้ายในการคอภาษี เดือน มี.ค. จะมีผู้เสียภาษีมายื่นขอคืนจำนวนมาก ใกล้เคียงจากปีก่อนประมาณ 1 ล้านราย ซึ่งกรมสรรพากรขอให้ผู้ที่ทำเรื่องขอคืนภาษี สมัครเข้าบัญชีพร้อมเพย์ จะได้รับเงินภาษีคืนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลว่า สรรพากรจะไปตรวจสอบรายได้ เนื่องจากกรมมีข้อมูลเพียงชื่อ นามสกุล เลขผู้เสียภาษีเท่านั้น ไม่ได้รู้ข้อมูลในบัญชีของผู้เสียภาษี

“ยอดผู้ขอคืนภาษีตอนนี้กว่า 4 หมื่นรายพบว่ามีผู้ให้ความสนใจยื่นผ่านระบบพร้อมเพย์จำนวนมากกว่า 75% หรือประมาณ 30,000 ราย ส่วยที่เหลือเป็นการยืนขอคืนภาษีแบบเดิม 25% หรือ 10,000 ราย”นายประสงค์ กล่าว

นายประสงค์ กล่าวว่า กรมไม่ได้คืนภาษีล่าช้า แต่จะดำเนินการคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อลดค่าใช้จ่ายประเทศ เช่น การออกเช็ค ลดต้นทุนค่าธรรมเนียม ซึ่งตามแผนจะต้องตรวจสอบจ่ายคืนคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์ก่อนภายใน 30 วัน ในกรณีที่มีการสมัครพร้อมเพย์ภายหลัง หรือเปลี่ยนบัญชีธนาคาร ก็จะตรวจสอบจ่ายคืนเพิ่มอีกรอบภายใน 30 วัน หรือจ่ายภาษีคืนผ่านระบบพร้อมเพย์อย่างน้อยภายใน 45 วัน

ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่ได้ขอคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์ จะได้รับภาษีคืนล่าช้า เนื่องจากจะต้องดำเนินการหลังจากที่คืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์แล้วเสร็จ ซึ่งตามระเบียบกรมสามารถคืนภาษีให้ได้ภายในไม่เกิน 6 เดือน โดยในช่วง มี.ค. ที่คาดว่าจะมีผู้ขอคืนภาษีจำนวนมาก การออกเช็คคืนภาษีให้กับผู้ขอคืนจะล่าช้าออกไปอีก เนื่องจากมีข้อจำกัดสามารถพิมพ์เช็คได้วันละไม่เกิน 50,000 ราย ซึ่งหากเปลี่ยนมาขอคืนผ่านระบบพร้อมเพย์ ก็จะได้คืนภาษีรวดเร็วขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน