บีทีเอสเสนอผลตอบแทนให้รฟม. แลกสัมปทานส่วนต่อขยาย 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ส่วนต่อขยาย) เส้นทางจากสถานีศรีรัชเข้าไปยัง เมืองทองธานี และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ส่วนต่อขยาย) เส้นทางจากสถานีรัชดาไปเชื่อมกับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณใกล้สี่แยกรัชโยธิน มูลค่าลงทุน 7 พันล้านบาท
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รฟม.กำลังเจรจากับกิจการร่วมค้าบี เอสอาร์ (BSR Joint Venture) ที่มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย
ทั้งนี้ รฟม.ได้แจ้งเงื่อนไขการลงทุนโครงการส่วนต่อขยายทั้ง 2 เส้นทางให้บีเอสอาร์รับทราบ และขอให้ยื่นข้อเสนอกลับมาให้ รฟม. พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ทั้งเรื่องการดำเนินงาน การลงทุน ผลตอบแทนที่จะให้แก่รัฐ เป็นต้น จากนั้นจะ รฟม. และกลุ่ม บีเอสอาร์ เจรจาอีก ครั้ง ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เพื่อสรุปผลเสนอให้คณะกรรมการมาตรา 43ฯ แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลบทุนในกิจการของรัฐ (PPP), กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามลำดับ
โดยขณะนี้ได้ทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้ง 2 เส้นทางเสร็จแล้วและเตรียมเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะก่อสร้างได้ทันที หลัง ครม.เห็นชอบ โดยต้องก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วน ต่อขยายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน
นายภคพงศ์ กล่าวถึงรายละเอียดการลงทุนต่อว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ส่วนต่อขยาย) มีเส้นทางจากสถานีศรีรัชเข้าไปยัง เมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ส่วนต่อขยาย) มีเส้นทางจากสถานีรัชดาไปเชื่อมกับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณใกล้สี่แยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 7 พันล้านบาท
กลุ่ม BSR ต้องรับภาระการลงทุนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าก่อสร้างหรือค่าเวนคืน ซึ่งเป็นไปตามหลักการของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสี ชมพูและสายสีเหลือง และเมื่อหมดสัญญาสัมปทาน 33 ปี 3 เดือนแล้ว กลุ่ม BSR ก็ต้องโอนทรัพย์สินทั้งหมดกลับมาให้ รฟม.
