สอน. กำชับสมาคมชาวไร่อ้อย-โรงงานน้ำตาล งดเผาก่อนตัดส่งโรงงานน้ำตาล ลดปัญหาฝุ่น – พร้อมเตรียมแผนเพาะปลูกอ้อยฤดูถัดไป หวั่นวิกฤตภัยแล้งฉุดอ้อยลดลง

สอน. กำชับงดเผาอ้อย – นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2561/2562 ว่า ในปีนี้มีโรงงานน้ำตาลทรายเปิดหีบอ้อยทั้งสิ้น 55 โรงงาน ปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.ถึงวันที่ 1 เม.ย. 2562 มีจำนวน 126.14 ล้านตัน ขณะนี้โรงงานน้ำตาลทรายปิดหีบไปแล้ว จำนวน 24 โรงงาน และจะปิดหีบในวันที่ 11 เม.ย. อีก 22 โรงงาน ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ โรงงานน้ำตาลทุกโรงจะหยุดหีบอ้อยชั่วคราว เพื่อลดปัญหาด้านการจราจร และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน โดยจะมีโรงงานอีกเพียง 9 โรงงาน ที่เปิดหีบอีกครั้ง ในวันที่ 18 เม.ย.2562 คาดว่าจะปิดหีบทุกโรงงานภายในวันที่ 30 เม.ย. 2562 ปัจจุบันมีปริมาณอ้อยคงเหลือเพียงประมาณ 1,500,000 ตัน เท่านั้น

ส่วนสถานการณ์หมอกควันและค่าฝุ่นละอองเกินระดับมาตรฐานใน 9 พื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้กำชับให้หน่วยงานราชการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยการทำงานในพื้นที่ ขอให้ระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมทั้งอาสาสมัครลงพื้นที่ตรวจสอบและปราบปรามการลักลอบเผา หากผู้ใดกระทำความผิดให้จับกุม โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสมาคมชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ำตาล ให้กำชับชาวไร่อ้อยงดการเผาอ้อยก่อนตัดส่งโรงงานน้ำตาล ซึ่งหากมีการเผาอ้อยในกรณีใดก็ตามถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคแรก ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใด ๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท และมาตรา 25 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

“เบื้องต้นได้สั่งการให้ นายสมพล โนดไธสง รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ลงพื้นที่ติดตามร่วมกับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ภาคที่ 4 รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการเข้มงวด กวดขัน ตรวจสอบและเฝ้าระวังการเผาอ้อยก่อนตัดส่งโรงงานน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการเผาอ้อยไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตามสามารถแจ้งไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) กล่าวว่า จากสถานการณ์ การหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตในปี 2561/62 ที่มีปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบแล้วรวม 126.14 ล้านตัน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 125.81 ล้านตัน โดยขณะนี้ผลิตผลน้ำตาลได้แล้ว 13.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 13.80 ล้านตัน และมีค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 12.60 ซี.ซี.เอส. ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 12.52 ซี.ซี.เอส. โดยมีผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) อยู่ที่ 110.34 กิโลกรัมต่อตันอ้อย เพิ่มขึ้น 0.66 กิโลกรัมต่อตันอ้อย เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียิลด์อยู่ที่ 109.68 กิโลกรัมต่อตันอ้อย

นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณที่ดีจากปริมาณอ้อยไฟไหม้ พบว่า ฤดูการผลิตปีนี้ปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลง 5% เหลือ 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 65% ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ให้ตัดอ้อยสดส่งโรงงานน้ำตาลมาโดยตลอด ทั้งนี้ อ้อยไฟไหม้ยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรชาวไร่อ้อยและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูการหีบอ้อยปีนี้ที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบเฉลี่ยต่อวันเริ่มลดลงต่ำกว่า 1 ล้านตัน จึงคาดการณ์ว่าโรงงานน้ำตาลทุกโรงจะสามารถปิดหีบอ้อยทั้งหมดได้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น ประมาณ 130 ล้านตัน ซึ่งบริษัทพร้อมส่งฝ่ายไร่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือชาวไร่สำหรับปีการเพาะปลูกอ้อย 2562/63 ในช่วงสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ที่คาดว่าจะยาวนานและมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อผลผลิตอ้อยเข้าหีบในปีถัดไป ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณลดลงกว่าปีนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน