นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 14 พ.ค. นี้ สัญญาให้บริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท จำกัด เช่าอาคารและทรัพย์สิน โรงแรมรถไฟหัวหิน หรือ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน บนเนื้อที่ 71.65 ไร่ จะหมดสัญญาลง ขณะที่ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน รฟท. ยังดำเนินการตามขั้นตอนพิจารณาผลตอบแทนครั้งใหม่ไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นในการประชุมบอร์ดรฟท. วันที่ 17 พ.ค. นี้ รฟท. จะเสนอให้มีการต่อสัมปทารการเช่าให้บริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท จำกัด เป็นการชั่วคราวไปก่อน เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน โดยเก็บค่าเช่าในอัตราเดิม เพื่อรอขบวนการเจรจาผลตอบแทน
เบื้องต้น รฟท. ได้จัดทำอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมเอาไว้แล้ว คือขั้นแรกจะเปิดเจรจากับกลุ่มเซ็นทรัลรายเดิมก่อน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาเดิม โดยกำหนดเงื่อนไขผลตอบแทนคือ รฟท. จะต่ออายุสัมปทานให้ 30 ปี โดยเซ็นทรัลต้อง จ่ายค่าเช่าตลอดอายุสัญญา ไม่ต่ำกว่า 5,727 ล้านบาท และต้องลงทุนปรับปรุงอาคารและก่อสร้างอาคาร อีก 3,169 ล้านบาท เพื่อให้มูลค่าของโครงการ คิดเป็นมูลค่าผลตอบแทนครั้งใหม่ราว 8,896 ล้านบาท ซึ่งหากเซ็นทรัลให้ผลตอบแทนต่ำกว่านี้ รฟท. ก็จะยุติการเจรจา และเปิดเจรจารายใหม่แทน
รายงานข่าวจากรฟท. แจ้งว่า สาเหตุที่การเจรจาเกิดความล่าช้า เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาผลประโยชน์ตอบแทนที่รฟท. ควรจะได้รับก่อน แล้วจึงเปิดเจรจากับรายเดิม หากตกลงกันไม่ได้จึงจะมีการเปิดเจรจากับรายอื่น โดยโครงการนี้ไม่ต้องเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์เรื่อง พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2560 เพราะถือว่าไม่ใช่โครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นโครงการหาประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ของ รฟท. ซึ่งรฟท. สามารถพิจารณาแนวทางในการดำเนินโครงการได้เองโดยผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด รฟท.
