นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ล่าสุดบริษัทได้จัดตั้งแผนกดิจิตัล เพื่อพัฒนาดิจิตัลแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ และพัฒนาแอพพลิเคชั่น สำหรับสนับสนุนการทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น และนักธุรกิจแอมเวย์สามารถสร้างการตลาดผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ด้วยการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้ากับประสบการณ์ด้านดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ของแอมเวย์ในระยะ 3-5 ปีจากนี้ จะทำให้นักธุรกิจขายตรงของแอมเวย์ ขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างลงตัว โดยไม่ให้แย่งลูกค้ากันเอง ทั้งยังสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด ตลอดจนตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอาชีพที่มีความอิสระ สามารถทำรายได้ได้จริง เห็นผลรวดเร็วและมั่นคง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา และเชื่อมั่นว่าภายในปี 2568 จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยยอดขาย 30,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน

พร้อมกันนี้ล่าสุดแอมเวย์ได้วางงบลงทุน 1,000 พันล้านบาท ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 60 ปี ของประวัติศาสตร์แอมเวย์ทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “คอร์พลัส” (CORE PLUS+) เพื่อปรับโครงสร้างรายได้เพิ่มเงินรางวัลพิเศษนอกเหนือจากแผนรายได้หลักให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ทุกระดับ ด้วย 3 จุดเด่น ได้แก่ ได้ง่าย-ช่วยให้นักธุรกิจรายใหม่สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายและเร็วขึ้น ได้เพิ่ม-ช่วยให้นักธุรกิจในช่วงสร้างธุรกิจได้รับเพิ่มทั้งเงินรางวัลและลำดับขั้นความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น และเติบโตยั่งยืน-ช่วยให้นักธุรกิจระดับผู้นำสามารถทำรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง มีองค์กรธุรกิจที่มั่นคง ตลอดจนสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน รองรับด้วยแผนพัฒนาทักษะความรู้ทางธุรกิจและแผนการตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยแอมเวย์ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่เริ่มใช้โปรแกรมคอร์พลัส ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ เนื่องจากแอมเวย์ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของแอมเวย์ที่มียอดขายอันดับ 5

สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงในขณะนี้จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ถูกผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนสู่โลดิจิตัล โดยปัจจุบันการซื้อขายสินค้าบนออนไลน์ขยายตัวขึ้นมากแล้ว แต่ด้วยจุดแข็งของธุรกิจขายตรงคืออยู่ในธุรกิจมา 30 ปี และยังมีลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ดังนั้นธุรกิจขายตรงรายใหญ่ ที่มีฐานสมาชิกที่มากพอ ลูกค้าจงรักภักดีต่อแบรนด์ จะยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทที่มีขนาดกลาง-เล็กอาจไม่มีศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจต่อไปได้ ทำให้มองว่าภาพรวมตลาดธุรกิจขายตรงในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตได้เพียง 2% จากปี 2561 ที่ตลาดติดลบ 1% หรืออยู่ที่ 70,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะมาจากธุรกิจขายตรงรายใหญ่เป็นหลัก โดยแอมเวย์ ตั้งเป้าเติบโตปีนี้ 10% หรืออยู่ที่ 20,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจขายตรงอันดับ 2 คาดวาจะเติบโต 7% เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ อีกทั้งมีกิจกรรมการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสินค้าเรือธงของแอมเวย์ในระยะ 1-2 ปีจากนี้ คือกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ทั้ง นิวทริไลท์ และโดยเฉพาะบอดี้คีย์ ผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนัก ซึ่งปีนี้เติบโต 25-30% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เหลือยอดขายทรงๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน