เจ้าท่าลั่น ม.ค.ปีหน้า เปิดเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ยักษ์ เส้นทาง “ประจวบ-แหลมฉบัง” ขนได้คน และรถบรรทุก ร่องสินค้าลงใต้ลดปัญหารถติดบนถนน สหวิริยา นำร่องขอใช้บริการ ขนส่งเหล็ก ด้านบิ๊กซีขนสินค้าอุปโภคบริโภค

เดินเรือเฟอร์รี่“ประจวบ-แหลมฉบัง”– นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มอบหมายให้ จท. ไปเร่งดำเนินการส่งเสริมการขนส่งทางน้ำไปยังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกสินค้าที่วิ่งบนถนนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จนก่อให้เกิดปัญหารถติด โดยเฉพาะบริเวณถนนพระราม2 ขณะนี้มีผู้ประกอบการเอกชนเตรียมพร้อมที่จะนำเรือ RoPax หรือเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ 19,487 ตันกรอส มาเปิดให้บริการเดินเรือข้ามฝั่งเส้นทางท่าเรือบางสะพาน-ท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะเปิดให้บริการในเดือนม.ค.ปี 2563 เพื่อขนส่งผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว สินค้าอุตสาหกรรม เกษตรกรรม อุปโภคบริโภค ฯลฯ

“เรือ RoPax เป็นเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ สามารถรองรับรถบรรทุกสินค้าได้มากถึง 128 คัน และยังบรรทุกผู้โดยสารได้อีก 1,128 คน เบื้องขณะนี้มีบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมที่จะเข้ามาใช้บริการขนเหล็กในเส้นทางดังกล่าวแล้ว ขณะที่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ก็จะเข้ามาใช้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคลงไปภาคใต้ ซึ่งเมื่อนำรถบรรทุกสินค้าไปลงเรือจะช่วยแก้ปัญหารถติดบนนถนนได้มาก”

รายงานข่าวจากจท. กล่าวถึงแผนพัฒนาการขนส่งสินค้าทางน้ำ เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกจากภาคใต้เข้าสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า มี 3 เส้นทางที่เหมาะสม ได้แก่ 1. เส้นทางท่าเรือบางสะพาน (ท่าเรือประจวบ)-ท่าเรือแหลมฉบัง/ศรีราชา มีระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร (ก.ม.) หากเดินทางทางเรือ โดยใช้ระยะเวลาเดินเรือประมาณ 8 ชั่วโมง หากเดินทางถนน จะมีระยะทางประมาณ 500 ก.ม. ใช้ระยะเวลาเดินรถประมาณ 8 ชม. ปัจจุบันมีเอกชนสนใจลงทุนแล้ว

2. เส้นทางท่าเรือแหลมฉบัง/ศรีราชา-ท่าเรือน้ำลึกสงขลา หากขนส่งด้วยรถยนต์ระยะทางประมาณ 2,300 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 23-24 ชม. หากขนส่งทางทะเลประมาณ 350 ไมล์ทะเล ใช้เวลาประมาณ 19-20 ชม. ปัจจุบันพบว่ามีเอกชนสนใจลงทุน

และ 3. ท่าเรือแหลมฉบัง/ศรีราชา-แหลมทวด จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 450 ก.ม. พบว่าร่องน้ำลึกไม่เพียงพอรองรับเรือ RoRo Ferry ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถขนส่งรถบรรทุกข้ามฝั่งทะเลได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันจึงยังไม่มีเอกชนสนใจลงทุน

รายงานข่าวจท. แจ้งว่า นอกจากแผนพัฒนาเส้นทางเดินเรือระยะแรกที่ จท. จะบริการเส้นทางท่าเรือบางสะพาน-แหลมฉบังแล้ว ยังมีแผนพัฒนาในอนาคต คาดว่าจะให้บริการในเส้นทาง ท่าเรือหลมฉบัง/ศรีราชา-ท่าเรือน้ำลึกสงขลา โดยจะเปิดให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนเดินเรือ ทั้งนี้ จากข้อมูลการศึกษาของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) พบว่าการเดินเรือชายฝั่งเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือกรุงเทพ เป็นทางเลือกในการขนส่งสินค้าในประเทศ สามารถทดแทนการขนส่งทางรถบรรทุก ทำให้ประหยัดต้นทุนการขนส่งและลดมลภาวะ

อย่างไรก็ตาม เคยมีการพัฒนาเชื่อมโยงดังกล่าวกับท่าเรือระนอง ในลักษณะแลนด์บริดจ์ ระหว่างฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน ขนส่งสินค้าโดยเรือบาร์จจากท่าเรือกรุงเทพ-ท่าเรือบางสะพาน-ท่าเรือระนอง โดยรถยนต์ระยะทาง 200 ก.ม. ก่อนส่งไปปลายทางที่ท่าเรือย่างกุ้ง ซึ่งสามารถประหยัดเวลาขนส่งได้ 10 วัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน