ก.พลังงานตั้งวอร์รูมเกาะติดน้ำมันราคาพุ่ง-ผันผวน ยืนยันไทยไม่ขาดแคลน แจงปริมาณสำรองรวมใช้ได้เกือบ 2 เดือน ยอมรับอาจกระทบราคาปรับขึ้นบ้าง แต่พร้อมดึงเงินกองทุนฯ อุดหนุน นัดกบง. ถกรับมือด่วนบ่าย 17 ก.ย.นี้

ตั้งวอร์รูมเกาะติดน้ำมันราคาพุ่ง – นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุประเทศซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลด้านปริมาณสำรองน้ำมันของประเทศไทยรวมจำนวนวันที่สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ทั้งหมด 54 วัน โดยไม่ประสบปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำมันในประเทศแน่นอน และไม่มีความจำเป็นต้องสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นในขณะนี้ เพราะยังมีแหล่งผลิตน้ำมันอีกหลายแห่งที่ไทยสามารถนำเข้ามาใช้แทนจากแหล่งซาอุดิอาระเบียได้ เช่น แหล่งน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกา โอมาน เป็นต้น

โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 ก.ย. 2562 ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบในประเทศอยู่ที่ประมาณ 3,366 ล้านลิตร สำรองได้ 28 วัน ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอยู่ที่ 1,193 ล้านลิตร สำรองได้ 10 วัน น้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ประมาณ 1,848 ล้านลิตร สำรองได้ 16 วัน ส่วนปริมาณสำรองก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือนมีประมาณ 131 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 23 วัน หากรวมการใช้แอลพีจีของภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่งแล้วจะทำให้จำนวนวันสำรองแอลพีจีอยู่ที่ 12 วัน

ทั้งนี้ แม้ขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ค้ารายใดประกาศปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้ปรับขึ้นได้ หากสถานการณ์ยืดเยื้อประมาณ 1 สัปดาห์ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเพิ่มขึ้น 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หากยืดเยื้อประมาณ 2-6 สัปดาห์ ราคาจะปรับขึ้น 5-15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

นายสนธิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้นหากมีความจำเป็นที่รัฐต้องเข้าไปดูแลสถานการณ์ราคาน้ำมันนประเทศก็ยังมีกลไกกองทุนน้ำเชื้อเพลิงที่มีสถานะเงินสดหมุนเวียนประมาณ 39,400 ล้านบาท สามารถใช้รักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนได้ โดยราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ปรับขึ้นทุก 1 บาท อาจต้องใช้เงินกองทุนฯดูแลประมาณ 1,500 ล้านบาท

“ยอมรับว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นทุก 1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันของไทยปรับขึ้นประมาณ 20 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจากทิศทางราคาน้ำมันของเช้าวันนี้ (16 ก.ย. 2562) ปรับขึ้นไป 12% คิดเป็นราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นประมาณ 6-7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเปิดตลาดในช่วงเช้าราคาปรับขึ้นไปทะลุระดับ 71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ระหว่างวันราคากลับเคลื่อนไหวปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นภาวะที่ยังผันผวน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) นัดพิเศษช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) เพื่อเร่งหารือมาตรการป้องกันล่วงหน้าหากกระทบราคาในประเทศรุนแรงและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อค่าครองชีพของประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์ว่าส่งผลกระทบเร็วและรุนแรงมากน้อยแค่ไหนต่อราคาน้ำมันดิบและราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลาภายใน 48 ชั่วโมงนับตั้งแต่เกิดเหตุ เนื่องจากต้องประเมินว่าสถานการณ์สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วแค่ไหน กำลังการผลิตกลับคืนมาระดับใด สามารถชดเชยส่วนที่สูญเสียไปจากโรงกลั่นที่เกิดเหตุได้เท่าไหร่ และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน