นายสันติ ปิยะทัต ทีมทนายความจาก บริษัทกฎหมาย เอเชีย อินเตอร์ ลอว์ จำกัด เปิดเผยภายหลังเข้ายืนหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมว่า ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด เพื่อเข้ายื่นหนังสือและร้องเรียนไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกสัญญาโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน จนทำให้บริษัทได้รับความเสียหายจากโครงการดังกล่าวราว 3.9 พันล้านบาท

โดยทางเบสท์รินมองว่า ขสมก. นั้นละเลยในสัญญาที่จะรับมอบรถเมล์ภายหลังจากได้ดำเนินการตรวจรับและโอนกรรมสิทธิ์รถเมล์รวมถึงติดตั้งระบบจีพีเอสกับกรมการขนส่งทางบกไปแล้วจำนวน 292 คัน จากจำนวน 489 คัน เพื่อตรวจรับรถยนต์เพิ่มเติมจนครบตามสัญญา ประกอบกับศาลปกครองกลางได้มีคําสั่งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ให้ ขสมก. ดำเนินการตรวจรับรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ที่ออกจากอารักขาของศุลกากรแล้วไว้ชั่วคราว ก่อนศาลมี คำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

นายสันติกล่าวต่อว่า หลังจากนี้บริษัทเบสท์ริน จะเดินหน้ายื่นฟ้องคดีเพื่อคุ้มครองสัญญาเพื่อมิให้มีการเปิดประมูลรถยนต์ใหม่จนกว่าคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครองในคดีจะถึงที่สุด เนื่องจากเห็นว่าการบอกเลิกสัญญนั้นไม่เป็นธรรมกับบริษัท

ด้านนายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคมและรักษาการผู้อำนวยการใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก. ไม่กังวลกรณีเบสท์ริน ยื่นหนังสือและจะเดินหน้าฟ้องร้องศาลกรณีการบอกเลิกสัญญาโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เนื่องจากเป็นสิทธิของเอกชนที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการบอกเลิกสัญญานั้น ได้กระทำโดยรอบคอบและอยู่บนหลักของสัญญาทุกประการ พร้อมที่จะชี้แจงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งคณะทำงานทางกฎหมายทำงานร่วมกับอัยการเพื่อเตรียมข้อมูลนำไปชี้แจง ในชั้นศาลในวันพุธที่ 26 เม.ย.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน