ศ.คลินิกนพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวถึงทิศทางและเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2560-2561 ว่า เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพที่เป็นเลิศและประสิทธิภาพความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้รับบริการ โดยมีแผนพัฒนา คือ 1. การพัฒนาคุณภาพด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาล ต่ออายุรกรรมรับรองมาตรฐานสากล JCI (The Joint Commission International) และมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เจาะลึกเฉพาะทางด้วยมาตรฐาน CCPC TKR (Clinical Care Program Certification-Total Knee Replacement Program-CCPC TKR)

2. การพัฒนาบุคลากร จัดการฝึกอบรมหลักสูตร Homey Service Experience Standard และการเสริมสร้างปลูกฝังแก่นความสามารถหลักขององค์กร (Core Competency) “We R SiPH”

3. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วย ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง และทันเวลา

“ปี 2560 เราตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% จำนวนผู้ป่วยนอก 511,700 คน, จำนวนผู้ป่วยใน 16,804 คน และขยายบริการเพิ่มศูนย์โรคภูมิแพ้ คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ นอกจากนี้ คาดว่าจะเปิดบริการศูนย์ทางเดินปัสสาวะ และจะเปิดจำนวนเตียงครบ 357 เตียง ในปี 2561” ศ.คลินิก น.พ.ประดิษฐ์ กล่าวเสริม

ในปี 2559 SiPH ได้ปรับปรุงและปรับกระบวนการปฏิบัติงานควบคู่กับการพัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ เปิดคลินิกฟื้นฟูหัวใจ และเพิ่มนวัตกรรมการรักษาธาราบำบัด ในศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู การออกกำลังกายในน้ำ สำหรับผู้มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการรับรู้ การทรงตัว ผู้ที่เคยผ่าตัด เนื่องจากกระดูกหัก ผู้ป่วยโรคข้อต่างๆ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน และบุคคลทั่วไปผู้ที่มีอาการเครียด และเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน

ปัจจุบัน SiPH เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 20 ศูนย์ ครอบคลุมการรักษาโรคยาก และโรคทั่วไป โดยมีสัดส่วนผู้เข้ารับการรักษาในปี 2559 แต่ละศูนย์มากที่สุด 5 อันดับดังนี้ 1. ศูนย์อายุรกรรม 2. ศูนย์ออร์โธปิดิกส์ 3. ศูนย์เด็ก 4. ศูนย์ศัลยกรรม 5. ศูนย์หัวใจ

ด้านกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม ปีนี้ SiPH มีแคมเปญ “ออมเพื่อให้” รณรงค์สร้าง ให้สังคมตระหนักถึงการเป็นผู้ให้ด้วยการออม ด้วยการบริจาคสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา อาคารศูนย์การแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลหลังสุดท้ายที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่วยลดความแออัด และเป็นการขยายการบริการทางการแพทย์ให้เพียงพอที่จะรองรับประชาชนผู้มารับบริการ

“ตั้งแต่เปิดโรงพยาบาลเปิดให้บริการ ถึง ปี 2559 ได้ส่งมอบเงินกลับคืน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 625 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสของโรงพยาบาลศิริราช และพัฒนายกระดับการแพทย์สู่ความเป็นเลิศในเอเชียอาคเนย์ คาดการณ์ในปี 2560 จะมอบเงินคืนกลับเพิ่มอีก 250 ล้านบาท”ศ.คลินิกน.พ.ประดิษฐ์ กล่าวสรุป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน