นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สั่งการให้กรมการค้าภายในเรียกประชุม ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค จำนวน 5-6 ราย เช่น ยูนิลีเวอร์, พี แอนด์จี, คอลเกตปาล์มโอลีฟ, เครือสหพัฒน์ และอื่นๆ รวมทั้งห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ อาทิ บิ๊กซี, แม็คโคร, เทสโก้ โลตัส ในวันที่ 9 พ.ค. นี้ เพื่อมาหารือโครงสร้างราคาสินค้า และการปรับลดขนาด (ไซซ์) สินค้าลงมามีความเหมาะสมหรือไม่ หลังมีข่าวว่าขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าใช้วิธีการปรับราคาสินค้าทางอ้อม โดยลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ และปริมาณสินค้าลงมา ในขณะที่ยังตั้งราคาจำหน่ายสินค้าเท่าเดิม โดยที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าขณะนี้ ผู้ผลิตสินค้าไม่มีการปรับราคาสินค่า และค่าครองชีพไม่ได้สูงขึ้น

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าสินค้าครีมอาบน้ำ, ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำ บางยี่ห้อ ที่มีข่าวว่ามีการปรับลดปริมาณลง แต่ขายในราคาเท่าเดิมนั้น เช่น ตอนเริ่มจำหน่าย ขนาดถุงอยู่ที่ 1,000 มิลลิกรัม และต่อมาได้ปรับลดขนาด ลงมาเป็น 900 มิลลิกรัม และ 800 มิลลิกรัม นั้น สินค้าดังกล่าว อยู่ในกลุ่มรายการสินค้าที่ติดตามดูแล 205 รายการ ไม่ได้อยู่ในรายการสินค้าควบคุม ที่ผู้ประกอบการต้องขออนุญาตทางกรมการค้าภายในก่อนจะปรับราคา

สำหรับรายการสินค้าที่กรมการค้าภายใน ติดตามดูแล (watch list) อาทิเช่น สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน แชมพูสระผม กระเบื้อง สังกะสี เหล็กเส้น น้ำมันพืช ไข่ไก่ นมสด โดยปกติจะใช้มาตรการบริหารจัดการ ในการดูแลราคาสินค้า คือให้ผู้ประกอบการ แจ้งให้กรมการค้าภายในทราบก่อนล่วงหน้า หากจะปรับราคาสินค้าขึ้นไป แต่ไม่ต้องมาขออนุญาต ซึ่งในรายการสินค้าที่เป็นข่าว นั้น ล่าสุดทางผู้ผลิตสินค้าได้ชี้แจงเบื้องต้นว่า การตั้งราคาขายสินค้าในปัจจุบัน ไม่ได้เกินจากเพดานราคาสินค้า ที่แจ้งให้กรมการค้าภายในทราบ และในขนาดเดิมยังขายในราคาต่ำกว่าที่แจ้งไว้ด้วย

นอกจากนี้ จะมีการเรียกประชุมห้างค้าปลีกรายใหญ่พร้อมกันไปด้วย เนื่องจากกลไกกำหนดราคาสินค้าส่วนหนึ่ง มีผลมาจากโครงสร้างการบริหารต้นทุน ในห้างค้าปลีกด้วย

ด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีของกระทะ Korean King นั้น ไม่ได้ เป็นรายการสินค้าที่อยู่ในความดูแลของกรมการค้าภายใน หากผู้บริโภคเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องร้องเรียนไปที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน