นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรมฯเตรียมเปิดให้เอกชนยื่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ รอบที่ 23 ซึ่งจะเป็นการเปิดครั้งแรกในรอบ 13 ปีนับจากปี 2550 คาดภายในเดือนก.พ.นี้ จะสรุปแปลงได้ชัดเจนสามารถออกประกาศเชิญชวน (ทีโออาร์) ให้เอกชนเข้ามายื่นสำรวจฯ ได้ภายในเดือนเม.ย.นี้ เน้นพื้นที่ทะเลอ่าวไทย ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) ประเมินเม็ดเงินลงทุนสำรวจขั้นต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท และคาดใช้เวลาในการพิจารณาเห็นชอบและอนุมัติเสร็จภายในสิ้นปีนี้ก่อนลงนามกับเอกชนคาดภายในช่วงเดือนม.ค. 2564

นอกจากนี้ กรมฯยังเจรจากับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการเปิดให้เอกชนยื่นสำรวจฯ แปลงบนบกต่อเนื่อง หลังติดปัญหาระเบียบสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่ยังไม่อนุญาตให้ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมสามารถขอเข้าไปใช้ประโยชน์ปฏิรูปที่ดินสำหรับกิจกรรมกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้ ทั้งยังเตรียมหารือกับกระทรวงต่างประเทศ และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อพิจารณาแนวทางการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ที่มีศักยภาพและหากพัฒนาได้จริง 2.6 หมื่นตารางกิโลเมตร ภายในเดือนก.พ.บนเงื่อนไขที่ไม่เสียอธิปไตยทั้งสองประเทศ

“เบื้องต้นแนวทางคงต้องออกมาในรูปแบบเดียวกับพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียหรือเจดีเอ คือไม่ได้แบ่งเส้นเขตแดนแค่กำหนดพื้นที่ขึ้นมาร่วมกันเพื่อพัฒนาปิโตรเลียมและได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากไทยและกัมพูชาหาจุดลงตัวได้ว่าพื้นที่นี้แหละที่จะกำหนดในการพัฒนาปิโตรเลียมนำร่องไปอาจจะเหลือไม่กี่พันตารางก.ม.ก็ได้”นายสราวุธกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน