นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จท. เตรียมขอจัดสรรงบประมาณปี 2564 วงเงิน 45 ล้านบาท ซึ่งจะผูกพันปีงบฯ 2564 จำนวน 9 ล้านบาท และปีงบฯ 2565 จำนวน 36 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณท่าเทียบเรือบางโพ ให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังระบบอื่นได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าบางโพของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมทั้งยังเป็นการยกระดับการให้บริการท่าเรือสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยาและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามด้วย
“หากผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณแล้วเสร็จ กรมจะเร่งจัดทำร่างเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) คาดจากนั้นจะเปิดประมูลหาผู้รับเหมาคาดว่าจะได้ตัวผู้ชนะการประมูล และลงนามในสัญญาจ้างในช่วง ต.ค.-ธ.ค. 2563 และเริ่มก่อสร้างเดือนม.ค. 2564 ซึ่งจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ในเดือนมิ.ย. 2565”
นายวิทยากล่าวว่า สำหรับแผนการปรับปรุงท่าเรือบางโพนั้น จะประกอบด้วยงาน 3 ส่วน คือการปรับปรุงและก่อสร้างท่าเทียบเรือ พร้อมโป๊ะเทียบเรือ ขนาด 6×12 เมตร จำนวน 2 ตัว การก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารรูปแบบไทยประยุกต์ 1 หลัง และลานหลังท่าเรือขนาด 200 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม กรมมีท่าเรือบางโพเดิมอยู่แล้ว แต่หยุดการใช้งานไป เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จจึงจำเป็นต้องปรับปรุงท่าเรือให้สอดรับกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเรือและรถไฟฟ้าได้มากขึ้น
นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างท่าเทียบเรือโดยสารบริเวณสถานีพระนั่งเกล้า สกายวอล์ก เชื่อมการเดินทางไปยังสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ว่า รฟม. ได้ลงนามสัญญาว่าจ้าง บริษัท แพนเรล (ประเทศไทย) จำกัดให้ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเป็นวงเงิน 94.75 ล้านบาท โดยเริ่มงานก่อสร้างไปแล้วเมื่อช่วงเดือนม.ค. ที่ผ่านมา และจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการช่วงปลายปีนี้ โดยจะมีการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อผู้โดยสารเดินทางเชื่อมต่อระหว่างเรือโดยสาร รถไฟฟ้า และรถโดยสารสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมทั้งจะมีการก่อสร้างอาคารสนับสนุน เช่น ห้องน้ำ ร้านค้า สำนักงาน ขสมก. ศาลาพักผู้โดยสาร, สะพานลอยคนเดินข้าม และงานปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วย
