น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ กนอ. จะเปิดให้บริการนิคมอุตสาหกรรมสระแก้วอย่างเป็นทางการแห่งแรก รองรับการลงทุนทั้งจากนักลงทุนในประเทศไทย และนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาใช้บริการได้ในพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนตามนโยบายของรัฐบาล หลังการพัฒนาพื้นที่แล้วเสร็จครบ 100% บนพื้นที่กว่า 660 ไร่ มูลค่าการลงทุนโครงการประมาณ 1,660,261 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นงบประมาณของ กนอ. 960.261 ล้านบาท และเป็นงบประมาณแผ่นดิน (งบอุดหนุน) 700 ล้านบาท ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการและใช้พื้นที่เต็มประสิทธิภาพแล้ว คาดจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในนิคมฯ ประมาณ 17,400 ล้านบาท เกิดการจ้างงานในพื้นที่ประมาณ 4,500 อัตรา คิดเป็นมูลค่าการจ้างงานประมาณ 486 ล้านบาท/ปี

นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว จะเป็นศูนย์กลางการค้าและเชื่อมโยงระบบเศรษฐกิจในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นจุดยุทธศาสตร์บริเวณพื้นที่ชายแดนที่ห่างจากด่านชายแดนประเทศกัมพูชาประมาณ 3 กิโลเมตร และสามารถเชื่อมต่อไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปต-โอเนียง ประเทศกัมพูชา เน้นการลงทุนอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร เนื่องจากในพื้นที่ จ.สระแก้ว และจังหวัดใกล้เคียง มีผลไม้และพืชผลทางการเกษตรจำนวนมากเหมาะสำหรับการแปรรูปหรือส่งออก และอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ บรรจุภัณฑ์และเครื่องใช้พลาสติก ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หรือเครื่องจักร และผลิตเครื่องไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะมีนักลงทุนเช่าพื้นที่ได้เต็มพื้นที่ได้ภายใน 5 ปี

โดยนิคมฯ ดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว บนพื้นที่จำนวน 660 ไร่ แบ่งโซนพื้นที่ออกเป็น พื้นที่รองรับอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม 433 ไร่ พื้นที่ระบบสาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียวและแนวกันชน 227 ไร่ โดยการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ได้ใช้การออกแบบตามมาตรฐานระบบสาธารณูปโภคฯ สำหรับนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศฯ พ.ศ.2527 ที่เน้นให้อาคารเป็นสีเขียว ห้องน้ำสะอาด โดยออกแบบให้มีการใช้ระบบจับสัญญาณเพื่อการประหยัดพลังงาน ทั้งในส่วนของไฟฟ้าส่องสว่าง อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ และจัดให้มีเส้นทางจักรยานโดยรอบอ่างเก็บน้ำ และรอบนิคมตามแนวถนนสายหลัก รวมทั้งจัดให้มีสวนหย่อมที่มีไม้ดอกไม้ประดับสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและมีประติมากรรมแสดงอัตลักษณ์ของนิคมอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความต้องการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดกิจกรรมที่ต่อเนื่องจากการลงทุน เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ร้านค้า ศูนย์การค้า หอพัก/บ้านเช่า เป็นต้น เกิดการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่มีเพิ่มขึ้น และมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ ระบบคมนาคม ไฟฟ้า ประปา โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น และการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อรองรับการประกอบอุตสาหกรรม และกิจกรรมเกี่ยวเนื่อง เพื่อไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมและสร้างความเดือดร้อน/รบกวนแก่ชุมชนโดยรอบพื้นที่

น.ส.สมจิณณ์ กล่าวว่า นักลงทุนที่ไปลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ด้านภาษีอากร เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 8 ปี/ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 5 ปี/หักค่าขนส่งไฟฟ้า และประปา 2 เท่า 10 ปี/หักค่าติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกได้ 25% ยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าเครื่องจักร และยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบผลิตเพื่อส่งออก และสิทธิที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร เช่น อนุญาตให้คนต่างด้าวที่เป็นช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการ เข้ามาทำงานในนิคมฯ และอนุญาตให้ครอบครัวและบุคคลซึ่งอยู่ในอุปการะอยู่ในราชอาณาจักรส่งออกเงินตราต่างประเทศได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน