นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงผลประชุมคณะกรรมการ ทอท. ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติบริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เนื่องจากเสนอค่าตอบแทนสูงสุด และสูงกว่าที่ ทอท. เคยได้รับอยู่เดิม และที่ทอท. คาดหมาย โดยค่าตอบแทนดังกล่าวจะถูกปรับขึ้นทุกปีให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่อ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์ และการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร (ระหว่างประเทศ) ตลอดอายุสัญญา ทั้งนี้ ทอท. จะเปิดให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากรควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรรายอื่นตามนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขัน มิให้เกิดการผูกขาดในการดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง จากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีมติให้ปรับลดค่าตอบแทนด้านกิจการเชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยาน โดยมีระยะเวลาระหว่าง 1 ก.พ. 2563 – 31 มี.ค. 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นการบริหารจัดการตารางบินที่ได้เริ่มใช้ไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1. ปรับลดค่าผลตอบแทนสำหรับสัญญาที่มีผลตอบแทนคงที่รายเดือน 20% เป็นระยะเวลา 1 ปี ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2563 – 31 ม.ค. 2564

2. สำหรับสัญญาที่ไม่ได้มีผลตอบแทนคงที่ มีมติให้ยกเว้นการเก็บค่าตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน และค่าตอบแทนขั้นต่ำรายปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ระหว่าง 1 ก.พ. 2563 – 31 มี.ค. 2565 โดยให้ผู้ประกอบการจ่ายเพียงผลตอนแทนจากรายได้ตามปกติ 3. สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การร่วมทุนของรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 พิจารณาเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสภาพคล่องผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ในระยะวิกฤต คณะกรรมการ ทอท. ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการเลื่อนการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง สำหรับผู้ประกอบการปัจจุบันที่ร้องขอการผ่อนผันเข้ามา เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน พร้อมทั้งยกเว้นค่าปรับจากการขอเลื่อนชำระ ภายหลังจากได้รับผลกระทบจากยอดผู้โดยสารที่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการ ในช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว จนอาจนำไปสู่การยกเลิกกิจการ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อแรงงานท้องถิ่นและอัตราการว่างงานของประเทศได้

นอกจากการช่วยเหลือทางด้านสังคมและเศรษฐกิจแล้ว ทอท. ยังมีมาตรการสนับสนุนด้านสุขภาพของประชาชน โดยสนับสนุนงบประมาณในวงเงิน 21.82 ล้านบาท ให้กับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อจัดซื้อเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยระบบอินฟราเรด (Thermoscan) จำนวน 17 เครื่อง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานไปจนถึงการรับมือโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ในอนาคต นำไปสู่ความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทอท. การคาดการณ์ว่ามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ ครั้งนี้จะส่งผลให้รายได้ในปรงบประมาณปี 2563 ของ ทอท. ลดลงประมาณ 5% จากรายได้ปี 2562 หรือลดลง 3.24 พันล้าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน