น.ส.วรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในเรื่องการว่าจ้างมัคคุเทศก์ (ไกด์) ท้องถิ่น โดยจะออกเป็นกฎกระทรวงว่าบริษัททัวร์ที่จะพานักท่องเที่ยวเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นต่างๆ จะต้องว่าจ้างคนในท้องถิ่นเป็นไกด์นำเที่ยวด้วยทุกครั้งควบคู่กับไกด์หลักที่ดูแลในกรุ๊ปอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้เข้าสู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะในกลุ่มชาวบ้านที่มีความรู้เรื่องแหล่งท่องเที่ยวดั้งเดิมเป็นอย่างดี เบื้องต้นคาดว่าจะนำร่องก่อนใน 2 แหล่งท่องเที่ยวชุมชน และจะบังคับใช้ได้ภายใน 90 วัน

นอกจากนี้ ยังปรับเกณฑ์การจัดแบ่งเขตพื้นที่ของไกด์ในแต่ละพื้นที่จากเดิมที่จะแบ่งประเภทจำนวนมาก อาทิ ไกด์ดูแลวัฒนธรรม, ไกด์ทางทะเล และจะแบ่งเป็นเพียงเขตจังหวัดไม่กี่จังหวัด แต่จะให้ปรับมาเป็นการขยายพื้นที่การดูแลเพิ่มขึ้นเป็นการดูแลในระดับภูมิภาคได้ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับไกด์เอง

ขณะนี้ภาครัฐพยายามที่จะกระจายรายได้ด้านการท่องเที่ยวต่างๆ เข้าสู่ท้องถิ่นให้มากขึ้น ซึ่งในเรื่องไกด์ท้องถิ่นนี้ถือว่า ช่วยสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้โดยตรง เพราะกลุ่มนี้ถือว่ารู้เรื่องประวัติความเป็นมาดีที่สุด โดยกลุ่มนี้จะได้รับการยกเว้นคุณสมบัติต่างๆ ของไกด์ทุกประการ รับค่าจ้างตามมาตรฐานไกด์ทั่วไป เริ่มต้นประมาณ 1,000 บาทต่อวัน แต่ต้องมีการสอบมีการคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ ส่วนในพื้นที่นำร่องตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะมีการหารือกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ที่เชี่ยวชาญเรื่องแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อคัดเลือกชุมชนที่เหมาะสมที่จะมีไกด์ท้องถิ่น”

ด้านพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังจากประชุมติดตามความคืบหน้าด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า สั่งการให้นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ไปเสนอวาะพิจารณา ให้ปี 2561 เป็นปีท่องเที่ยวไทยแห่งชาติ เข้าคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) พิจารณา พร้อมเตรียมการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาในปีหน้า โดยเฉพาะการสร้างเจ้าบ้านที่ดี ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องพัฒนาให้ได้ประมาณ 10,000 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน