นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยระหว่างเป็นประธานเปิดงานสัมมนา การปฏิรูปภาษีสรรพสามิต ผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจในไทย จัดโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM Thailand) ว่า หอการค้าอเมริกันฯ มีบทบาทกับการค้าการลงทุนของประเทศไทยมาก มีสมาชิก 650 ราย มีมูลค่าการค่าการลงทุนสูงเป็นอันดับ 3 จำนวน 1.75 ล้านล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงานในไทยกว่า 2 แสนอัตรา
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีกฎหมายใหม่บังคับใช้ซึ่งจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจไทย นอกจากพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่จังบังคับใช้กลางเดือน ก.ย. 2560 นี้ ยังมี พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ มีผลบังคับใช้เดือน ส.ค. 2560 และ พ.ร.บ.ศุลกากรใหม่มีผลบังคับใช้เดือน พ.ย. 2560 ซึ่งจะทำให้การค้าการลงทุน เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกฝ่ายทั้งในและนอกประเทศ
“กฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ทำให้บรรยากาศการลงทุนของไทยดีขึ้น ซึ่งจะมีผลทำให้การจัดอันดับความยากง่ายการทำธุรกิจของไทยดีขึ้น ซึ่งตอนนี้เอกชนเริ่มมีการลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลเป็นตัวนำการลงทุนเร่งลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงการเดินหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งจะทำให้มีการลงทุนของเอกชนมากขึ้นในอนาคต”นายวิสุทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ภาคเอกชนไม่กังวลกับกฎหมายที่จะออกใหม่ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่ เพราะมีการหารือกับผู้ประกอบการมาตั้งแต่การออกกฎหมาย พ.ร.บ. จนถึงปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการออกกฎหมายลูก ก็ยังมีการประสานแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด ซึ่งการเก็บภาษีอัตราใหม่จะไม่ส่งผลให้ภาระภาษีเพิ่มขึ้นในช่วงแรก เพราะการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเก็บภาษีไม่ได้หวังเก็บรายได้เพิ่มขึ้น
ด้านนางจูดี้ เบน ผู้อำนวยการบริหารหอการค้าอเมริกันฯ ได้กล่าวชื่มชมรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการปฏิรูปภาษีสรรพสามิตให้เป็นสากลสร้างความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียม จากการเปลี่ยนฐานการเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงาน หรือ ราคาสำแดงนำเข้า มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ เป็นต้น
“การปฏิรูปภาษีสรรพสามิต แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการทำระบบภาษีและระเบียบต่างๆ ให้มีความทันสมัยในการอำนวยความสะดวกการประกอบการธุรกิจ และสร้างเสริมความสามารถการแข่งขันของประเทศ หากประสบความสำเร็จจะทำให้ได้รับการยอมรับจากทั้งเอกชนและรัฐบาลนานาประเทศ”
