นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวในงานแถลงข่าวโครงการอาเซียน-อินเดีย เอ็กซ์โป แอนด์ ฟอรั่ม ว่า การค้าระหว่างไทยอินเดียขยายตัวเร็วมาก ตั้งเป้าหมายปีนี้ขยายตัว 4% จากปีที่ผ่านมามีการค้าระหว่างกัน 7,700 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นไทยส่งออก 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยนำเข้า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากเชื่อมการค้าการลงทุนผ่านกันทางทะเล และมีผู้ประกอบการไทยไปลงทุนอินเดียในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ขณะนี้มีเส้นทาง 3 ฝ่าย เชื่อมตั้งแต่อินเดีย ผ่านพม่า เข้าไทยที่จ.ตาก ซึ่งเป็นทางสำคัญตัดสู่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วย
ขณะเดียวกันรัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้ประชาชนตนเองออกมาท่องเที่ยวต่างประเทศ ไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญ การเชื่อมโยงต่างๆ เหล่านี้จะช่วยผลักดันการค้าการลงทุนขยายตัวมากขึ้น และไม่เพียงระหว่างสองประเทศ แต่จะทำให้การค้าการลงทุนระหว่างอาเซียน-อินเดียขยายตัวอีกมาก จากที่มีความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-อินเดียอยู่แล้ว ประกอบกับอยู่ระหว่างเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ให้บรรลุ
ทั้งนี้ รัฐบาลไทย ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจับมือ 9 ประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศอินเดีย จัดงาน “ASEAN-India Expo and Forum : Strategic Economic Partnership & Connectivity” มหกรรมสินค้าและบริการแสดงศักยภาพกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและอินเดีย พร้อมด้วยการประชุมนานาชาติด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อการเติบโตไปด้วยกันที่ยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม ที่ทั้ง 2 ภูมิภาคมีศักยภาพอยู่แล้ว ทั้งวัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติ และประชากรอาเซียนและอินเดียรวมกันถึงเกือบ 2,000 ล้านคน ซึ่งสามารถสร้างห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ในระดับภูมิภาคได้ อีกทั้งยังเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย และ 70 ปี ความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย
งานนี้จัดขึ้นวันที่ 2-5 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยวันที่ 3 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเปิดงาน และในวันที่ 4 ส.ค. จะมีการลงพื้นที่เยี่ยมชมอีอีซี คาดมีผู้ชมงานนี้ 12,000 ราย มีการเจรจาธุรกิจจากบริษัทใหญ่ 150 บริษัท
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-อินเดีย และรองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพอย่างมาก ล่าสุดธนาคารโลกระบุว่าในปีหน้าอินเดียจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วมากที่สุดในโลก คาดว่าไม่ต่ำกว่า 7-8% และมีแนวโน้มเติบโตเป็นเลขสองหลัก
โดยอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนในอินเดีย ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม โรงพยาบาล อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขณะเดียวกันทางผู้ประกอบการไทยและอาเซียนมีความรู้และเทคโนโลยีในการแปรรูปวัตถุดิบอยู่แล้ว หากเข้าไปลงทุนก็จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ มองแนวโน้มรัฐบาล ผู้บริหารประเทศของอินเดียยังคงมาจากพรรคเดิม ซึ่งจะทำให้นโยบายมีความต่อเนื่องส่งผลดีต่อการค้าการลงทุน ขณะเดียวกันนโยบายส่งเสริมคนอินเดียให้ออกมาเที่ยวนอกประเทศในปีนี้ 50 ล้านคน ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอาเซียนด้วย
