นายทศพร ศรีศักดิ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ก.ค. 2560 กรมปศุสัตว์จะไถ่ชีวิตโคกระบือเพื่อเฉลิมพระเกียรติ์ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร หรือในหลวงรัชกาลที่ 10 ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จำนวนทั้งสิ้น 1,065 ตัว เพื่อมอบให้เกษตรกรใน 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท 400 ตัว บุรีรัมย์ 230 ตัว ศรีสะเกษ 120 ตัว กาฬสินธุ์ 250 ตัว และอุบลราชธานี 65 ตัว แบ่งเป็น โค 1,000 ตัว และกระบือ 65 ตัว ซึ่งโครงการนี้สร้างประโยชน์ให้เกษตกรอย่างมาก และเป็นหนึ่งในศาสตร์พระราชา
ส่วนกรณีบุญรอดควายเพศเมียที่ถูกขายให้พ่อค้าไปนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับเกษตรกรที่นำควายบุญรอดไปขายแล้ว และศาลจังหวัดหล่มสัก มีคำสั่งพิพากษาให้จำคุกเกษตรกร ซึ่งเป็นเจ้าของบุญรอด 1 เดือน และปรับเป็นเงิน 35,000 บาท
ขณะที่ในส่วนของข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดและปศุสัตว์อำเภอ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน และกำชับเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบโครงการธนาคารโคกระบือ และสัตว์ของธนาคารเป็นประจำ หากพบเหตุใดผิดปกติให้รายงานกรมปศุสัตว์โดยเร็ว
ส่วนมาตราการในการติดตามหาควายบุญรอด ขณะนี้ให้เกษตรอำเภอทุกแห่งประชาสัมพันธ์และติดต่อไปยังผู้ประกอบการที่รับซื้อสัตว์ และนำภาพบุญรอดแจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบหากระบือบุญรอด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
“ตอนขายเขาอ้างว่ากระบือตัวนี้ไม่ออกลูก แต่ตอนเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสตัว์ลงไปตรวจเมื่อเดือนก.พ.-มี.ค. 2560 เกษตรกรยังไม่ได้ใช้การผสมเทียม จึงยืนยันไม่ได้ว่าควายไม่ออกลูกจริงหรือไม่ และตามระเบียบของกรม ก่อนเกษตรกรจะทำอะไรจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน สำหรับพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โครงการธนาคารโคกระบือ ได้ให้เกษตรกรนำโคออกไปเลี้ยงทั้งหมด 7 ตัว สามารถออกลูกได้ทั้ง 7 ตัว เพราะฉะนั้นเหลือบุญรอดตัวเดียวที่ไม่ออกลูก เกษตรกรจึงใจร้อนรีบขายไป ซึ่งปศุสัตว์ประจำพื้นที่ต้องติดตามความก้าวหน้าของเกษตรกรทุกระยะ ถ้าเกษตรกรมีปัญหาต้องรีบชี้แจง และรายงานเป็นระยะ ไม่ควรจะปล่อยให้เกษตรกรตัดสินใจเอง”
สำหรับโครงการธนาคารโคกระบือ มีสัตว์อยู่ธนาคารทั้งสิ้น 117,987 ตัว แบ่งเป็น โค 82,109 ตัว กระบือ 35,878 ตัว โดยได้รับการบริจาคเป็นจำนวน 161,089 ตัว อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ มอบแม่พันธุ์พร้อมลูกโคให้แก่เกษตรกรแล้ว จำนวน 64,755 ตัว มูลค่า 857 ล้านบาท โดยยังมีสัตว์ในโครงการหมุนเวียนอีกกว่า 100,000 ตัว
