นายครรชิต เหมะรักษ์ ประธานเครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทยและคณะกรรมการเครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทยจาก 17 องค์กรทั่วประเทศ กล่าวหลังการพบกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ว่า กลุ่มได้ยื่นหนังสือขอให้พิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งไทยหลังวิกฤตโควิด-19 และนำเสนอโครงการฟื้นฟูด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีเร่งด่วนโดยหวังพัฒนาคุณภาพกุ้งไทยและขยับส่วนแบ่งการตลาดในการส่งออกเพื่อนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศอย่างยั่งยืน

นายครรชิตกล่าวว่า อุตสาหกรรมกุ้งไทยเป็นอุตสาหกรรมส่งออก เป็นอันดับหนึ่งของโลกมีผลผลิตประมาณ 600,000 ตันนำรายได้เข้าประเทศกว่า 100,000 ล้านบาทมีการจ้างงานกว่า 200,000 ตำแหน่งต่อมาเกิดภาวะวิกฤตโรคระบาดอีเอ็มเอส ทำให้ผลผลิตตกต่ำลงส่งผลให้ปริมาณผลผลิตในปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 300,000 ตันมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ตกลงมาเป็นอันดับ 5 ของโลก และสร้างงานเพียง 100,000 ตำแหน่งเท่านั้น ในขณะที่โรงงานใช้กำลังการผลิตไม่ถึงครึ่งของกระบวนการผลิตทั้งหมดและเกษตรกรปรับตัวกับวิกฤตอีเอ็มเอสได้แล้วจึงส่งผลให้อัตราการผลิตกลุ่มของไทยเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา และคาดหวังว่าจะเติบโตถึง 400,000 ตันในปี 2565-2566

อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าผู้เลี้ยงกุ้งมีปัญหาและอุปสรรคหลายด้าน เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงเพราะราคาอาหารสัตว์ที่อยู่ในระดับที่สูง จึงอยากให้ภาคภาครัฐพิจารณาในการลดภาษีน้ำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศลงเพื่อให้เกษตรกรหาซื้ออาหารสัตว์ได้ในราคาที่ถูกลง ให้ภาครัฐคิดอัตราค่าไฟฟ้าเรตเกษตรกร เพราะปัจจุบันถูกคิดค่าไฟฟ้าเรตไฟฟ้าบ้านทั่วไป มีแหล่งสินเชื่อที่เกษตรกรเข้าถึงได้เพราะปัจจุบันเกษตรกรไม่สามารถกู้สินเชื่อได้หรือกู้ได้น้อย รวมทั้งการกำหนดปริมาณผลผลิตกุ้งแต่ละปีให้มีความชัดเจนเพื่อป้องกันสินค้าล้นตลาด มีการเปิดโอกาสให้เครือข่ายเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ นำผลผลิตมาจำหน่าย ขยายฐานลูกค้า และแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำและภาครัฐก็ยังแก้ไขปัญหาได้ไม่ตรงจุดเครือข่ายจึงหวังว่าคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นมาจะสามารถนำปัญหาที่เครือข่ายเสนอไปแก้ปัญหาให้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อจะได้รักษาตำแหน่งผู้ส่งออกกุ้งอันดับ 1 ของโลกได้ต่อไป

นายครรชิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปัจจุบันอุตสาหกรรมกุ้งโลกต่างประสบปัญหากับการชะลอคำสั่งซื้อจากประเทศผู้นำเข้าเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่กลับเป็นโอกาสดีของอุตสาหกรรมกุ้งไทย เพราะยังมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาเนื่องจากประเทศคู่แข่งรายสำคัญเช่น อินเดีย เอกวาดอร์ ยังประสบปัญหาในการผลิตในหลากหลายด้านทั้งกระบวนการส่งออกรวมทั้งพบการปนเปื้อนบนผลิตภัณฑ์เป็นต้นทำให้สินค้าของประเทศไทยได้รับความนิยมและมีความต้องการจากกลุ่มผู้ค้าหลักหลักเช่นจีนและประเทศอื่นๆ มากยิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสให้ประเทศไทยในการเดินหน้าตลาดอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้มีสินค้าคุณภาพสู่ตลาดโลกมากขึ้น ดังนั้น เครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทยจึงต้องการให้หน่วยงานหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐเอกชนและองค์กรเกษตรกรเพื่อเป็นองค์กรต้นแบบในการพัฒนาสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้กลับสู่ขีดความสามารถเดิมภายใต้วิกฤตโควิด-19

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน