กบง. บี้ สนพ. ถก กกพ. อุ้มค่าไฟประชาชนต่อ พร้อมควักเงินกองทุนอุดหนุนแอลพีจีตรึงราคาถัง 15 กิโล ที่ 318 บาทถึงสิ้นปี

อุ้มค่าไฟประชาชนต่อ – นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธานมีมติเห็นชอบแนวทางลดภาระค่าไฟฟ้า โดยจะไปหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการทบทวนหลักเกณฑ์ทางการเงินให้มีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน

ทั้งนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้หารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปบริหารจัดการปริมาณกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมจัดทำแผนการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า และการกำกับดูแลการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าของกฟผ. นำกลับมาเสนอกบง. อีกครั้ง

“ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณไฟฟ้าสำรอง 37-40% ของกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัวที่เคยอยู่ในระดับ 17% ดังนั้น จึงต้องทบทวนแผนการจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์ (ซีโอดี) ของโรงไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงการทบทวนแผนซื้อขายไฟฟ้าจากต่างประเทศเพื่อลดภาระการสำรองไฟฟ้าในประเทศที่สูงขึ้น ให้สอดคล้องกับเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานของภูมิภาคอาเซียน (เพาเวอร์ ฮับ)”

นอกจากนี้ ให้กกพ. กำหนดอัตราค่าบริการจัดหาและค่าส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และทบทวนค่าบริการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อให้เหมาะสม รวมถึงทบทวนต้นทุนโครงสร้างต้นทุนของราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติเหลวสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) ให้เหมาะสมและสะท้อนต้นทุนจริง

โดยเบื้องต้นได้กำหนดการเปิดเสรีแอลเอ็นจีไว้ 2 แนวทาง คือ 1. การส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติหรือเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบ 2. การให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ซื้อขายก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียว ซึ่งจะมีการหารือให้ได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาในเดือนต.ค.นี้

นายวัฒนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กบง. ยังเห็นชอบให้คงราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าซหุงต้มอยู่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (ก.ก.) ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 2563 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีแอลพีจีมาบริหาร คิดเป็นรายจ่ายประมาณ 450 บาทต่อเดือน

“ตามกรอบวงเงินที่คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท หรือเหลืออีกประมาณ 5 เดือน (ต.ต. 2563-ม.ค. 2564) ณ วันที่ 13 ก.ย. 2563 บัญชีแอลพีจีติดลบ 7,424 ล้านบาท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน