พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบ ให้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 สำหรับแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง ให้ผู้ที่มีสัญชาติไทยไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มใบตม.6 สำหรับการเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร ขณะที่บุคคลต่างด้าวยังต้องกรอกเหมือนเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางที่เป็นคนไทย ซึ่งพบว่ามีปัญหาความล่าช้าในการผ่านเข้าเมือง โดยมีสาเหตุหนึ่งมาจากการต้องกรอกใบแบบฟอร์มตม. 6 ที่กำหนดให้กรอกสำหรับการเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร

“ปัจจุบันรัฐบาลมีความมั่นใจว่า ฐานข้อมูลของคนไทยที่หน่วยราชการต่างๆ ได้รวบรวมเอาไว้ ทั้งชื่อเสียงเรียงนาม หมายเลขประจำตัว 13 หลัก มีข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย จึงให้คนไทยไม่ต้องกรอกใบตม.6 เพื่อขจัดปัญหาความล่าช้า และอำนวยความสะดวกให้คนไทย”

ด้านายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ต้องการให้ภาครัฐเร่งพัฒนาระบบการรับวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีวีซ่า ให้ได้ในสนามบินพาณิชย์ทุกแห่งของไทย ซึ่งปัจจุบันมีแค่ที่สนามบินภูเก็ตเพียงแห่งเดียว เพื่อมารองรับจำนวนนักท่องเที่ยวจากเมืองรองของประเทศจีนและอินเดีย ที่ปัจจุบันไม่สะดวกที่จะเดินทางไปขอวีซ่าถึงสถานกงสุลเพราะระยะทางที่ห่างไกลมาก ซึ่งคาดว่าในปี 2561 หากทุกสนามบินรองรับอีวีซ่าได้ จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวของจีนที่มาจากเมืองรองให้เพิ่มขึ้นได้ 10% ส่วนตลาดอินเดียคาดว่าจะเพิ่มได้ไม่ต่ำกว่า 20%

“แม้รัฐบาลจะออกมาตรการเรื่อง การปรับเปลี่ยนแบบรายการบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (ตม.6) ใหม่ ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ก็ช่วยแค่เพียงเรื่องความสะดวกเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจริงๆ สิ่งที่จะช่วยนักท่องเที่ยวได้มากกว่า คือ การให้นักท่องเที่ยวจากตลาดใหญ่ๆ สามารถทำอีวีซ่าเข้ามาได้เลยและทุกสนามบินของไทยรองรับ นักท่องเที่ยวก็จะเข้าออกได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเรื่องความปลอดภัยของระบบและการพิจารณาของภาครัฐด้วย โดยตนคาดว่า ทุกสนามบินน่าจะรองรับอีวีซ่าได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้นในช่วงตรุษจีนปีหน้าได้ด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน