นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้สรุปยอดผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จากที่มาลงทะเบียนทั้งหมด 14.17 ล้านคน ลดเหลือ 11.43 ล้านคน โดยมีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ 2.74 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ถือครอบครองที่ดินเกินกว่าเกณฑ์ 1.6 ล้านคน มีเงินฝาก 6.8 แสนคน และ มีรายได้สูง 4 แสนคน

ส่วนกรณีที่มีผู้ที่มีการศึกษาในระดับปริญญาเอก (ด็อกเตอร์) มาลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิกว่า 500 คน จากการตรวจสอบเบื้องต้น 100 คน พบว่ามีผู้จบด็อกเตอร์จริงเพียง 5 คน และตรงตามเงื่อนไขรับสวัสดิการ ส่วนอีก 95 คน เป็นผู้ที่ไม่ได้จบด็อกเตอร์จริง

ทั้งนี้ จะเปิดให้มีการตรวจสอบสิทธิตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2560 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการยืนยันสิทธิ์ ก่อนไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามหน่วยที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 2560 ผ่าน 3 ช่องทางคือ 1. การตรวจสอบด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th , www.mof.go.th และ www.fpo.go.th โดยพิมพ์เลขบัตรประชาชนในการตรวจสอบ 2. ตรวจสอบผ่านสายด่วน 6 หน่วยงาน และ 3. ตรวจสอบ ณ ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือหน่วยงานที่กรมการปกครองเห็นสมควร และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร โดยคลังจะนำส่งรายชื่อเพื่อติดประกาศต่อไป

“กระบวนการตรวจสอบสิทธิ์มีความจำเป็น อยากให้ผู้ที่มาลงทะเบียนตรวจสอบก่อนว่าผ่านคุณสมบัติหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหากรณีที่ไม่ได้ผ่านคุณสมบัติ แต่เดินทางมารับบัตรสวัสดิการแล้วปรากฏว่าไม่ได้ ก็จะเกิดความสับสนวุ่นวาย”นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ 2.74 ล้านคน สามารถเข้าสู่กระบวนการอุทธรณ์เพื่อขอรับสิทธิ์สวัสดิการได้ ภายในวันที่ 29 ก.ย. 2560 โดยผู้ที่ลงทะเบียนตรวจสอบผลจาก 3 ช่องทางแล้วพบว่าไม่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งคลังจะให้เหตุผลว่าไม่ผ่านคุณสมบัติเรื่องใดบ้าง ให้กดยื่นคำขออุทธรณ์ และกรอกคำขออุทธรณ์ พร้อมบันทึกและส่งคำขอ เพื่อให้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการอุทธรณ์ หลังจากปิดให้ยื่นอุทธรณ์ หน่วยงานตรวจสอบจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ และส่งผลมาที่กระทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ต.ค. ซึ่งหากอุทธรณ์สำเร็จ ก็สามารถรับบัตรสวัสดิการได้

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 2560 จะเริ่มทยอยแจกบัตรสวัสดิการพร้อมกันทั่วประเทศ โดยบัตรห้ามไม่ให้คนอื่นใช้สิทธิ์ ยกเว้นบุคคลที่ดูแลหรือให้ความช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพ พิการ คนแก่ ผู้ดูแลสามารถนำบัตรมาใช้แทนได้ แต่ต้องใช้บัตรประชาชนประกอบและใช้สิทธิได้เฉพาะวงเงินเพื่อลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น

ซึ่งขณะนี้ มีร้านค้าธงฟ้าพร้อมเข้าร่วม 6,000 ร้าน โดยจะมีการสติ๊กเกอร์แสดงชัดเจน สามารถนำบัตรไปใช้รูดซื้อสินค้าได้ ในกรณีที่วงเงินหมดก็สามารถเติมเงินเข้าบัตรเพื่อใช้สิทธิที่ร้านธงฟ้าได้ หากมีการทำบัตรหาก ให้ไปแจ้งความและเสียค่าใช้จ่ายในการทำบัตรใหม่ 50-100 บาทที่ธนาคารกรุงไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน