นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทยและอาเซียน กล่าวว่า ภาพรวมของกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ปีนี้เติบโตทั้งหมด โดยมียอดขายเป็นบวก และเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี ทำให้บริษัทต้องลงทุนมากขึ้น ทั้งในการทำตลาด และการโฆษณาผ่านสื่อสำหรับโปรโมทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ น้ำยาทำความสะอาดโปรแมกซ์ฆ่าเชื้อโควิด สินค้าแอนตี้แบค และคนอร์ข้าวต้มที่เพิ่มคุณค่าทางอาหาร เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องหลายรายการ

พร้อมกันนี้ยังนำแบรนด์ ไลฟ์บอย ที่อยู่ในตลาดมา 30 ปี มาปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ และทำตลาดใหม่ในไทยอีกครั้ง เพราะสอดรับสถานการณ์ในช่วงนี้ ด้วยตัวผลิตภัณฑ์สบู่ มีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรีย และจำหน่ายในราคาไม่สูง พร้อมเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลดราคาผลิตภัณฑ์เพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย

“แม้ว่าภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ที่หลายฝ่ายมองว่าจะติดลบในปีนี้ และอาจจะต่อเนื่องไปปี 2564 จากภาวะเศรษฐกิจ และโควิด-19 ที่ยังไม่มีความแน่นอน แต่บริษัทมองบวกสำหรับในประเทศไทย และต้องยอมรับว่าปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทุกคน สถานการณ์ที่ยากลำบากจากโรคระบาดส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ และความไม่สงบทางการเมือง และส่งผลกระทบต่อหลายภาคธุรกิจ แต่ยูนิลีเวอร์ยังคงยืนหยัดที่จะดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนและสังคมโดยที่ผ่านมา เราได้บริจาคผลิตภัณฑ์มูลค่า 200 ล้านบาท ได้แก่ เจลทำความสะอาด ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์คนอร์และวอลล์ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด และเครื่องช่วยหายใจให้กับผู้บริโภคคนไทย”

นอกจากนี้ บริษัทยังช่วยสนับสนุนสภาพคล่องทางการเงินของพันธมิตรทางธุรกิจ ด้วยการยืดระยะเวลาชำระเงินเป็นพิเศษ และการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โชห่วยผ่านโครงการร้านติดดาว รวมทั้งช่วยแบ่งเบาด้านค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภคด้วยการลดราคาสินค้าหลายรายการ รวมถึงจากสถานีที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการว่างงานจำนมาก บริษัทการสร้างการจ้างงานผ่านโครงการ Wall’s man (พี่ติมวอลล์) ที่มาส่งไอศกรีมให้กับผู้บริโภคถึงบ้าน และประสบความสำเร็จมีการเติบโตที่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน