นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย สมอ. ว่า ขณะนี้สมอ. กำลังเจรจากับสายการบินไทยสมายล์ เพื่อนำร่อง นำสินค้าที่ผ่านมาตรฐานสินค้าชุมชนไปสู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ไปจำหน่ายบนเครื่องบิน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในต้นปี 2561 และเตรียมจะขยายความร่วมมือไปยังสายการบินนกแอร์ และบางกอกแอร์เพิ่มเติมในระยะต่อไป

นอกจากนี้ สมอ. ยังเตรียมพัฒนามาตรฐานตัวใหม่สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการเริ่มต้น (สตาร์ตอัพ) ภายใต้มาตรฐาน “มอก.Lite” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้นกิจการ แต่ไม่ใช่สินค้าชุมชนและไม่ใช่มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) แบบเดียวกับผู้ประกอบการรายใหญ่

“จุดประสงค์ที่จะดำเนินการให้ผู้ประกอบการที่เริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพแต่ไม่ใช่สินค้าชุมชน เพื่อให้มีมาตรฐานสามารถพัฒนาขยายตลาดได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงการดูแลทรัพย์สินทางปัญญา และหลังจากมีการเติบโตก็จะเข้าสู่มอก. ปกติ”เลขาฯ สมอ. กล่าว

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า มอบนโยบายให้สมอ. ร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) ให้การสนับสนุนเงินทุนการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงช่องทางการขยายตลาดใหม่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี)

ขณะเดียวกัน สมอ. ยังอยู่ระหว่างจัดทำแนวทางการปรับโครงสร้างการบริหารงานของสมอ. ยุค 4.0 เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนพ.ย. 2560 ให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการอนุมัติ อนุญาต และยกระดับมาตรฐานสินค้าชุมชนไปสู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) กระจายออกสู่ตลาดได้มากขึ้น

ปัจจุบัน สมอ. ลดขั้นตอนการกำหนดมาตรฐานมอก. ให้สามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 150 วัน จากเดิมที่ใช้เวลา 400 วัน และตั้งเป้าหมายลดระยะเวลาในการกระบวนการต่างๆ ให้เหลือเพียง 100 วันภายในต้นปี 2561 ซึ่งจะเทียบเคียงกับมาตรฐานประเทศชั้นนำในอาเซียน

ส่วนการออกใบอนุญาตตั้งเป้าหมายให้เหลือภายใน 10 วัน จากปัจจุบันใช้เวลาเกือบ 50 วัน โดยเน้นการใช้ระบบออนไลน์ ส่วนการตรวจสอบและติดตามผลให้เน้นใช้บุคคลที่ 3 เข้ามาร่วมดำเนินการมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน