นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 2563/64 ของโรงงานทั้ง 57 โรง จนถึงวันที่ 18 มี.ค. 2564 หลังเปิดหีบมาแล้ว 99 วันว่า มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 66.26 ล้านตัน ลดลง 11.04% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงในช่วงการเพาะปลูก รวมทั้งชาวไร่ประเมินว่า ราคาอ้อยปีหน้าจะอยู่ในระดับสูง เพราะราคาน้ำตาลตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น จึงกันอ้อยบางส่วนไว้ทำพันธุ์สำหรับการเพาะปลูก ส่งผลทำให้มีปริมาณอ้อยเข้าหีบโดยภาพรวมปีนี้ลดลง

ทั้งนี้ จากความร่วมมือระหว่างโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อยในการจัดเก็บผลผลิตอ้อยสดที่มีคุณภาพหีบสกัดเป็นน้ำตาล ทำให้มีสัดส่วนปริมาณอ้อยสดเข้าหีบคิดเป็น 73.64% และอ้อยไฟไหม้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือลดลงเหลือ 26.36% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนอ้อยไฟไหม้เกือบ 49.80% และโรงงานน้ำตาลทุกโรงมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างจริงจัง ทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) โดยเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นหรืออยู่ที่ 113.28 กิโลกรัมต่อตันอ้อย คิดเป็นผลผลิตน้ำตาลโดยรวมได้ทั้งสิ้น 75.07 ล้านกระสอบ

“โรงงงานน้ำตาล ประเมินว่าภายในสิ้นเดือนมี.ค.นี้ จะสามารถประกาศปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตนี้ได้ โดยระหว่างนี้จะเร่งสำรวจอ้อยค้างไร่ เพื่อป้องกันอ้อยที่ยังหลงเหลือ พร้อมให้คำแนะนำและเตรียมพร้อมแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกอ้อยในฤดูการผลิตใหม่ เนื่องจากมีความกังวลต่อสถานการณ์สภาพอากาศภัยแล้งที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตถัดไปได้”

อย่างไรก็ตาม คุณภาพอ้อยเข้าหีบดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ร่วมกันจัดส่งอ้อยสดอย่างจริงจัง เพื่อลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ให้เป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ ส่งผลทำให้ยิลด์น้ำตาลต่อตันอ้อยสูงขึ้นแม้ปีนี้ปริมาณอ้อยจะลดลงจากปีก่อน โดยขณะนี้หลายโรงงานได้ทยอยปิดหีบอ้อยแล้ว คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ก็สามารถประกาศปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2563/64 อย่างเป็นทางการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน