นายภมร ประเสริญสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 ส่งที่ได้รับการตอบสนองจากลูกค้าเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น ไฮเอนด์ในเมือง ย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีการเปิดตัว 34 โครงการ มูลค่ารวม 3 หมื่นล้าน โดยเอพีมีส่วนแบ่งตลาด 59%

ขณะเดียวกันย้อนหลังไปในปี 2553 พบว่าลูกค้าในกลุ่มอายุไม่เกิน 35 ปี ที่ระดับรายได้ 80,000 บาทขึ้นไป/เดือน อาทิ กลุ่มอาชีพที่ทำงานด้านการสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ก่อนหน้านี้นิยมอยู่คอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าทำให้ฐานลูกค้ากลุ่มนี้มีเพียง 39% แต่ปัจจุบันสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% และเป็นกลุ่มบ้าน 4-9 ล้านบาท

โดยความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนาโครงการทาวน์โฮมในทำเลใกล้เมืองที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านทำเลของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ รวมถึงจากการที่บริษัทได้รวบรวมต้องการของลูกค้า และได้แนวคิดการใช้พื้นที่จากลูกค้าเพื่อนำมาต่อยอดกระทั่ง ล่าสุดบริษัทได้นวัตกรรมการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านแบบไม่จำกัด ภายใต้แนวคิดเทอราเรีย โมเดล

พร้อมเปิดตัวในโครงการบ้านกลางเมือง บน 2 ทำเล ประกอบด้วย บ้านกลางเมืองสาทร-สุขสวัสดิ์ มูลค่า 1 พันล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท และบ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย มูลค่า 1,400 ล้านบาท ราคาขายเริ่มที่ 4.29 ล้านบาท ซึ่งมีจุดเด่นที่การออกแบบให้มีพ็อกเก็ตพาร์กในบ้านบริเวณชั้น 2 พร้อมระบบการระบายน้ำรองรับไว้ให้ สามารถปลูกไม้ยืนต้นได้ ตลอดจนการออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์ภายในบ้าน ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย การออกแบบให้มีความสอดคล้องต่อเนื่องของการใช้ประโยชน์พื้นที่ อสทิ ส่วนบริเวณโถงบันได สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้ และชั้น 3 มีพื้นที่พ็อคเก็ต การ์เด้นท์อีกหนึ่งจุดเป็นต้น

ขณะเดียวกันบริษัทมีการดำเนินกลยุทธ์ด้วยการจับมือกับพันธมิตรสถาบันการเงิน อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมาของปีนี้ซึ่งเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 25 โครงการ มูลค่ารวม 4.9 หมื่นล้านบาท

แบ่งเป็นแนวราบรวม 22 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่ารวม 1.23 หมื่นล้านบาท และ ทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่ารวม 1.26 หมื่นล้านบาท โดยที่อีก 3 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้าน บาท อย่างไรก็ดี ณ วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเฉพาะโครงการแนวราบแล้ว 1.27 หมื่นล้านบาท ใกล้จะถึงเป้าหมายยอดขายแนวราบที่บริษัทวางไว้สำหรับปีนี้ที่ 1.36 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้เตรียมเปิดโคนงการแนราบอีก อีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 7.7 พันล้านบาท ซึ่งรวมทั้ง 2 โครงการที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดแล้ว

“บ้านทาวน์โฮมการแข่งขันสูง ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การออกแบบบ้านเพื่อสอดรับความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”นายภมรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน